หลายๆ คนอาจรู้ประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วยการกระโดดเชือก และปั่นจักรยานมาประมาณหนึ่งแล้ว แต่เชื่อเถอะว่า สำหรับนักออกกำลังกายมือใหม่ ที่อยากลดน้ำหนัก ต้องเคยสงสัยบ้างละ ว่าการกระโดดเชือก กับการปั่นจักรยาน อันไหนจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดมากกว่ากัน วันนี้ WeMall จะมาช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
กระโดดเชือก ออกกำลังกายง่ายๆ แต่ประสิทธิภาพสูง
ต้องยอมรับว่าการกระโดดเชือกนั้นง่ายกว่าการออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่น เพราะเพียงแค่มีสมาธิ และกระโดดไปตามจังหวะของการหมุนเชือกที่ถูกต้องเท่านั้น ก็สามารถออกกำลังกายไปได้ยาวๆ แต่ทว่าความง่ายนี้กลับมาพร้อมกับการเผาผลาญแคลอรี่ที่มีประสิทธิภาพแถมยังออกกำลังกายได้ทุกส่วนอีกด้วย
โดยเบื้องต้นแล้วการกระโดดเชือกนั้นจะเผาผลาญราว 10 แคลอรี่/นาที หรือถ้ากระโดดเร็วมากๆ ก็อาจพุ่งไปถึง 1,300 แคลอรี่/ชม. ได้เหมือนกัน ทำให้หลายคนที่อยากลดน้ำหนักก็เริ่มต้นด้วยการกระโดดเชือก แทนที่จะไปใช้เครื่องออกกำลังกายตัวอื่นๆ เนื่องจากประหยัดค่าใช้จ่าย และออกกำลังได้ค่อนข้างง่าย เพียงแต่ช่วงแรกอาจต้องจำจังหวะในการกระโดดให้ดี เพื่อที่จะกระโดดได้นานๆ และอย่าลืมว่าให้ใช้ปลายเท้าลงถึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง และสามารถเผาผลาญแคลอรี่ พร้อมลดน้ำหนักได้ตามต้องการ หากใครอยากเข้าใจวิธีการกระโดดเชือกที่ถูกต้อง อ่านได้เลยที่บทความนี้ >>กระโดดเชือกถูกวิธี เผาผลาญได้ดี หุ่นฟิตเฟิร์ม<<
©Pinterest
ปั่นสู่โลกกว้าง พร้อมลดน้ำหนักไปด้วยกัน
ขณะเดียวกันการปั่นจักรยาน ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยานแบบกลางแจ้งจริงๆ หรือใช้เครื่องออกกำลังกายอย่างจักรยานออกกำลังกายปั่นอยู่กับที่ ก็ต่างเป็นวิธีช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีแถมยังน่าจะสนุกกว่าการกระโดดเชือก แม้เมื่อเทียบการกระโดดเชือกกับการใช้จักรยานออกกำลังกาย แล้วจะอยู่กับที่เหมือนกันก็ตาม แต่การปั่นจักรยานออกกำลังกายนั้น เรายังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เพลิดเพลินได้มากกว่า เช่น การได้รับชมภาพยนตร์ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มความสนุกได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตามการปั่นจักรยานนั้นจะเผาผลาญราว 450 แคลอรี่/ชม. ผ่านการปั่นราว 80-110 รอบ/นาที ในอัตราเต้นหัวใจที่ 60-85% ของอัตราการเต้นสูงสุด ที่สำคัญการปั่นจักรยานยังเป็นการออกกำลังกายแบบ Full Body อีกด้วย เพราะมันต้องใช้แรงจากทั้งร่างกายในการถีบบันไดเพื่อปั่นไปข้างหน้า
ดังนั้นถ้าใครเบื่อหน่ายการออกกำลังกายแบบอยู่นิ่งๆ การปั่นจักรยานก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ส่วนใครหลายคนที่กลัวปั่นแล้วขาใหญ่ ก็ลืมไปได้เลย เพราะถ้าปั่นอย่างถูกต้องแล้ว ไม่ใช่ขาจะใหญ่ขึ้น เพียงแต่ขาเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเท่านั้น ใครไม่เชื่อ ลองไปอ่านบทความนี้ดูครับ >>ปั่นจักรยานแล้วขาใหญ่ น่องโต จริงหรือ?<<
©Kimberly Snyder
แล้วอย่างนี้จะเลือกแบบไหนดี?
จริงๆ แล้วทั้งการกระโดดเชือก และการปั่นจักรยานล้วนดีต่อสุขภาพทั้งคู่ คงต้องอยู่ที่ความชอบ และความสะดวกของแต่ละบุคคลมากกว่า ถ้าอยู่ในที่พักอาศัยพื้นที่ไม่เยอะ หรือต้องเดินทางไปไหนมาไหนตลอดเวลา หรือแม้แต่ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายมากนักกับอุปกรณ์ออกกำลังกาย การกระโดดเชือกก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพราะเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่พกพาได้ง่าย ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ทำได้ ขอเพียงมีพื้นที่เล็กๆ ซึ่งถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ รับชมทัศนียภาพภายนอก ก็พกเชือกไปกระโดดได้ทุกที่เช่นกัน
ส่วนใครที่ชอบออกกำลังกายในฟิตเนส ที่มีเครื่องออกกำลังกายหลายชนิด มีเทรนเนอร์คอยแนะนำ เน้นการมีสังคง เพื่อนฝูง ร่วมออกกำลังกายไปด้วยกัน การปั่นจักรยานก็น่าจะเหมาะสมกับคนกลุ่มนี้ แต่ถ้าให้วัดกันจริงๆ ว่าอย่างไหนดีกว่า ก็คงตอบได้ยาก เพราะการจะกระโดดเชือกให้อัตราการเต้นของหัวใจขึ้นไปได้ 70-80% ของอัตราการเต้นสูงสุดนั้นต้องกระโดดเร็ว และมีความเชี่ยวชาญสูง แต่ถ้าเป็นจักรยาน หากปั่นบนจักรยานออกกำลังกาย การทำความเร็วเพื่อลดน้ำหนักนั้น ก็ต้องมีความมุ่งมันสูงพอควรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย เพราะฉะนั้น ให้เลือกที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และชนิดการออกกำลังกายที่เมื่อทำแล้วรู้สึกว่าไม่ฝืนจนเกินไปนัก เพราะหากอยากให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดเชือก หรือ ปั่นจักรยาน ก็ต้องอาศัยความตั้งใจ และการฝึกฝนครับ
