“เครื่องดูดฝุ่น” เครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายคนมีติดบ้านไว้ เพราะสะดวกและช่วยประหยัดแรงในการทำความสะอาดห้อง ทำให้คนที่อยู่คอนโดมิเนียม หรือแม้แต่บ้านเอง ต่างก็ยอมเสียเงินเริ่มต้นที่หลักพันบาทเพื่อซื้อมา ซึ่งไหนๆ ก็ลงทุนซื้อมาแล้ว ลองมารู้จักกับวิธีการรักษา และใช้งานที่ถูกต้องกันดีกว่า จะได้ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ได้นานขึ้น
หมั่นเปลี่ยน และทำความสะอาดถุง/ถังเก็บฝุ่น
อย่างแรกที่ทำให้เครื่องดูดฝุ่นของหลายๆ คนเสียเร็วก็เพราะตัวที่เก็บฝุ่นนั้นไม่สะอาด และพอไม่สะอาด ตัวเครื่องก็ต้องทำงานหนักขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นการหมั่นทำความสะอาดถุงเก็บฝุ่นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะนำมาเป่า หรือปัดฝุ่นออก (บางรุ่นสามารถล้างน้ำได้) ก็ช่วยผ่อนแรงให้ตัวเครื่องได้ประมาณหนึ่ง
นอกจากนี้ระหว่างการใช้เครื่องดูดฝุ่น หากเก็บฝุ่นเข้ามา 2 ใน 3 ของความจุแล้ว ก็ควรนำฝุ่นและขยะเหล่านั้นไปทิ้งก่อนที่จะนำไปใช้งานต่อ เพราะการหมั่นเทสิ่งสกปรกในถุงเก็บฝุ่น ก็ช่วยผ่อนแรงเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้
ยิ่งในเครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่ๆ ที่มีแผ่นกรองอากาศติดตั้งอยู่ ผู้ใช้ก็ควรนำแผ่นดังกล่าวมาล้าง หรือปัดฝุ่นทำความสะอาดอยู่เป็นประจำเพื่อการกรองอากาศที่ทำได้ดีขึ้น และไม่ต้องฝืนใช้แรงดูดสูงสุดของเครื่องดูดฝุ่นอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
ตรวจเช็คการเชื่อมต่อทุกส่วนก่อนใช้งาน
หลังจากทำความสะอาดถุงเก็บฝุ่นเรียบร้อยแล้ว ก่อนใช้งานเครื่องดูดฝุ่นทุกครั้ง ผู้ใช้ต้องตรวจเช็คการเชื่อมต่อของทุกอุปกรณ์ให้เรียบร้อยเช่นกัน เพราะหากประกอบส่วนต่างๆ ไม่ดี เช่นถุงเก็บฝุ่น, ตัวดูด หรือแผ่นกรองอากาศประกอบไม่ดี ก็มีโอกาสที่เครื่องดูดฝุ่นจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะลมที่ดูดอาจไปไม่ถึงบริเวณปลายของท่อดูดฝุ่น จนผู้ใช้บางคนที่ไม่เชี่ยวชาญในการใช้งานก็จะไปเปิดให้เครื่องทำงานแรงขึ้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เครื่องดูดฝุ่นใช้งานได้ไม่นาน
ทั้งนี้ หากเป็นเครื่องดูดฝุ่นรุ่นเก่าๆ ที่มีสายพานสำหรับหัวดูดฝุ่นก็ต้องหมั่นเปลี่ยนด้วยนะครับ ยิ่งบ้านไหนที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวนี้ทุกวัน แค่เพียง 6 เดือนก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวนี้กันแล้ว เพราะถ้าไม่เปลี่ยนก็มีความเสี่ยงที่สายพานจะขาด และทำให้ตัวหัวดูดไม่สามารถกวาดฝุ่นขึ้นมาได้ แต่ถ้าบ้านไหนใช้แค่เดือนละ 2-3 ครั้ง ก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเร็วขนาดนั้น
ระมัดระวังสายไฟ และการดูดสิ่งของขนาดใหญ่
ขณะเดียวกันที่ลืมไม่ได้คือ ระวังสายไฟของเครื่องดูดฝุ่น เพราะหากดึงแรงไปก็มีโอกาสที่สายไฟจะขาดเร็วขึ้น และทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวนี้เสียเร็วกว่ากำหนด นอกจากนี้ ควรระมัดระวังการดูดสิ่งของขนาดใหญ่ เช่น ถุงเท้า เพราะหากดูดของขนาดใหญ่เข้าไปก็มีโอกาสที่จะติดบริเวณหัวดูด หรือไม่ก็ในท่อดูด ซึ่งแก้ไขได้ยาก และอาจทำให้ระบบของเครื่องดูดฝุ่นนั้นรวนไปทั้งหมด
เครื่องดูดฝุ่นไร้ถุงเก็บฝุ่น Philips รุ่น FC8085
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว การหมั่นทำความสะอาดถุงเก็บฝุ่น, หัวดูดฝุ่น รวมถึงแผ่นกรองของเครื่องดูดฝุ่น ก็น่าจะทำให้เครื่องดูดฝุ่นทุกตัวสามารถใช้งานได้นานขึ้น ยิ่งผู้ใช้ตรวจสอบการเชื่อมต่อทุกอุปกรณ์ก่อนใช้งาน และใช้งานสายไฟอย่างระมัดระวัง ก็ยิ่งยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวนี้ได้อีกหลายปี
