แน่นอนว่าพฤติกรรมการออกกำลังกายของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ทำให้การเลือกซื้อหูฟังออกกำลังกายสักตัวหนึ่งก็ต้องแตกต่างเช่นกัน ดังนั้นอย่ารอช้าลองมาศึกษาวิธีการเลือกซื้อหูฟังที่เหมาะสมกับแต่ละคนกันดีกว่าครับ
วิ่งเหยาะๆ รับแดดยามเช้าต้องเบาสบาย
หากคุณเป็นคนที่ตื่นเช้าขึ้นมาวิ่งช้าๆ สักประมาณครึ่งชม. ก่อนออกไปทำงาน หรือวิ่งแบบนี้ตอนหลังเลิกงาน คุณจะอยู่ในกลุ่มที่วิ่งเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ดังนั้นการลงทุนกับหูฟังออกกำลังกายที่มีคุณภาพสูงอาจไม่คุ้มค่านัก ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพในการกันน้ำระดับสูง หรือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน ทำให้การเลือกซื้อหูฟังของคนกลุ่มนี้น่าจะเลือกแค่หูฟังบลูทูธที่ทนเหงื่อได้ประมาณหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หูฟังออกกำลังกายที่ใช้งานนั้นเสียหายเร็วกว่าปกติ พร้อมกับหารุ่นที่ให้คุณภาพเสียงค่อนข้างดี จะได้ใส่ในวันปกติได้ด้วย ซึ่งก็คงไม่พ้นหูฟังออกกำลังกายแบบ In-Ear ที่มีสายคล้องสั้นๆ
เน้นยกเหล็กในยิม แบบ Over-Ear ก็เท่
ฝั่งคนที่เน้นเข้าฟิตเนส หรือยิม เพื่อเข้าไป Weight Training การสวมใส่หูฟังออกกำลังกายแบบ In-Ear ก็ค่อนข้างเหมาะสมเช่นกัน แต่ด้วยการเคลื่อนในฟิตเนสนั้นไม่ได้เคลื่อนที่ซ้ำๆ ตลอดเวลาเหมือนกับการวิ่ง ทำให้การสวมใช้หูฟังที่จะแสดงให้เห็นถึงรสนิยมเรื่องแฟชั่น ก็น่าจะเป็นไปได้ ซึ่งการแสดงให้เห็นชัดก็คงต้องสวมใส่แบบ Over-Ear ที่ปัจจุบันก็เริ่มมีรุ่นกันเหงื่อ และกันฝุ่นบ้างแล้ว แถมยังช่วยตัดเสียงรบกวนได้ดีพอๆ กับหูฟัง In-Ear ซึ่งจะช่วยเพิ่มสมาธิในการออกกำลังกายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นหูฟังบลูทูธที่ไม่ต้องมีสายออกมาเกะกะเช่นกัน
ถ้า Hardcore ต้องสามารถวัดอัตราการเต้นหัวใจ
เมื่อพูดถึงการออกกำลังกายอย่างจริงจัง หนึ่งในเรื่องที่ถูกพูดถึงต้องมีหัวข้อ “อัตราการเต้นของหัวใจ” แน่ๆ เพราะเมื่อทราบข้อมูลตัวนี้ การออกกำลังกายก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีหูฟังบลูทูธที่สามารถแสดงข้อมูลนี้ได้แล้ว แถมยังแม่นยำไม่แพ้กับที่ใช้ Smartwatch และ Activity Tracker อีกด้วย โดยรุ่นที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นขั้นสูง พร้อมกับโค้ชส่วนตัวที่จะคอยบอกการเคลื่อนไหว และอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ตลอด ทำให้การสวมใส่เพื่อซ้อมวิ่งมาราธอน หรือเพื่อลงแข่งไตรกีฬา ก็ค่อนข้างสะดวก เพราะไม่ต้องมีอะไรมารั้งที่แขนเอาไว้ อย่างตอนนี้ที่มีขาย Jabra Pulse Special Edition – Black ที่เคยพูดถึงในบทความก่อนหน้านี้ถือว่าตอบโจทย์ทีเดียวครับ ใครยังไม่ได้อ่าน คลิกอ่าน Jabra Sport Pulse หูฟังออกกำลังกาย โค้ชดูแลหัวใจที่ต้องมี! ได้เลยครับ
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่คำแนะนำเบื้องต้น เพราะการเลือกซื้อหูฟังสักตัวยังต้องดูเรื่องดีไซน์ สีสัน รวมถึงคุณภาพเสียงที่มันก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลจริงๆ แต่การเลือกหูฟังออกกำลังกายของทุกกลุ่มก็มีหนึ่งตัวแปรที่เหมือนกันคือ “หูฟังบลูทูธ”เนื่องจากมีความสะดวกสบาย และคล่องตัวเมื่อสวมใส่เพื่อออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ และถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี ลองเลือก หูฟัง ที่นี่ได้เลย ส่วนใครที่เลือกได้แล้ว ก็ขอให้สนุกกับการออกกำลังกายพร้อมเสียงเพลงครับ