เข้าสู่ฤดูกาลสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ผุดกันเป็นทิวแถว นำเสนอกันด้วยดีไซน์สวยสด เย้ายวนใจ รูปทรงเงางามแวววับวิ้งว้าว ล้ำทั้งฮาร์ดแวร์ กับซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดที่มีความทันสมัยสุด และน่าจะปลอดภัยสุด(แล้ว) ฟังดูแล้วมีแต่เรื่องน่าสนใจ ไม่เห็นจะมีข้อไม่ดีตรงไหน แต่เราจำเป็นจะต้องอัปเกรดไปสู่สมาร์ทโฟนใหม่กิ๊กหรือ? ถ้ายังใช้เครื่องเก่าสุดซี้ที่อยู่ข้างกายต่อไปหล่ะ…ดีไหม? ลองมาประเมินกันดู กับ 4 สิ่งที่ควรพิจารณา
- เครื่องที่ใช้งานอยู่นั้น หนืดหรือช้าจนรบกวนการใช้งานปกติรึไม่?
- สภาพของฮาร์ดแวร์เสมือนผ่านสงครามโลกรึยัง?
- แบตเตอรี่ยังเก็บไฟได้ดี หรือใช้แปบ ๆ วิ่งหาที่ชาร์จ?
- กระแสเงินสด/สินเชื่อ/โปรโมชั่น เอื้อต่อการจ่ายโดยไม่เดือดร้อนหรือไม่ ?
เครื่องที่ใช้งานอยู่นั้น หนืดหรือช้า จนรบกวนการใช้งานปกติรึไม่?
คงไม่ดีแน่ ถ้าแอพนำทางกระตุกกลางคัน เพราะสมาร์ทโฟนแรงไม่พอแล้ว…
“ความช้า” อาจนิยามไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราหมายถึงอะไร ในที่นี้ผมจะหมายถึงว่า สลับระหว่างแอพเกิดอาการกระตุก พิมพ์ข้อความแล้วคีย์บอร์ดตอบสนองไม่ค่อยทันนิ้วมือ เล่นวิดีโอบนแอพจำพวก YouTube, LINE TV กระตุก และหนักสุดสำหรับผมคือ แค่เปิดเครื่องก็รู้สึกได้ว่าอะไรต่อไรต้อง “รอ” … อันนี้ควรเปลี่ยนได้แล้ว แต่ถ้าที่กล่าวมาไม่ได้เกิดขึ้นเลย ใช้งานประจำวันลื่นไหล การเก็บเงินใช้เครื่องเดิมต่อคงเป็นตัวเลือกที่ดีต่อกระเป๋าเงินมากกว่าอย่างแน่นอน
สภาพของฮาร์ดแวร์เสมือนผ่านสงครามโลกรึยัง?
รอยแตกนิดหน่อยอาจพอทน พอซ่อม แต่ถ้าทั้งเครื่อง.. เปลี่ยนเถอะ
โอเค ๆ เครื่องยังใช้งานได้อยู่ แค่ด้านหน้ากระจกเป็นรอยร้าวประหนึ่งงานศิลป์ชั้นเลิศ (?) มีรอยตกเยอะหน่อย ไมโครโฟนจับเสียงได้บ้างไม่ได้บ้าง เพี้ยนจนฝั่งตรงข้ามได้ยินคนละอย่าง ลำโพงเสียงแตก กล้องโฟกัสไม่ค่อยได้ ฯลฯ คุณอาจมองว่าแค่นี้ก็ซ่อมในส่วนที่จำเป็นสิ.. ผมก็เห็นด้วยนะ เนื่องจากถ้าเครื่องมีบางจุดที่เสียเล็กน้อย การซ่อมแซมเฉพาะส่วน แล้วใช้งานต่อจนหมดอายุขัยก็ช่วยประหยัดเงินได้มาก
แต่ถ้าสภาพเครื่องค่อนข้างยับเยิน อะไหล่กับค่าแรงรวมกันแล้วมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของราคาสมาร์ทโฟนที่เคยซื้อมาหล่ะก็ ..เปลี่ยนเถอะ
แบตเตอรี่ยังเก็บไฟได้ดี หรือใช้แปบ ๆ วิ่งหาที่ชาร์จ?
แบตหมดไว ชาร์จบ่อยขึ้น ? ไม่เปลี่ยนแบตก็อาจเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้แล้วล่ะ
“แบตเตอรี่” ถือเป็นอะไหล่สิ้นเปลืองที่เสื่อมสภาพไวที่สุด ในบรรดาส่วนประกอบของสมาร์ทโฟน คงไม่โอเวอร์ไปนักที่จะกล่าวแบบนั้น ยิ่งพวกรุ่นที่ใช้การชาร์จเร็วพิเศษเอย ใช้ชาร์จไฟกำลังไฟแรง ๆ ใช้งานหนักหน่วงชาร์จเต็มร้อย ใช้เต็มสูบจนศูนย์เปอเซนต์ ยิ่งบั่นทอนอายุแบตเตอรี่ลง
โดยปกติแล้ว แบตเตอรี่ในอุปกรณ์พกพาจะมีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ย ระหว่าง 2 – 3 ปี เลวร้ายสุดคือปีเดียวก็เสื่อมแล้ว ถ้าโชคดี อาจใช้งานได้นานถึง 4+ ปี
ถ้าสมาร์ทโฟนที่ท่านใช้อยู่นั้น มีปัญหาแค่ตัวแบตเตอรี่ – ท่านสามารถประหยัดงบซื้อเครื่องใหม่ได้มาก โดยยอมเสียค่าแบตเตอรี่ใหม่ แม้ค่าเปลี่ยนแบตฯ จะมีมูลค่าสูงกว่าสมัยโทรศัพท์ถอดเปลี่ยนแบตได้เองก็ตามที แต่วิธีการนี้เลี่ยงการก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่จำเป็นอยู่นะครับ
แต่หากสมาร์ทโฟนที่ท่านใช้อยู่นั้น มีปัญหาแบตเตอรี่ พ่วงกับมีความช้า มีปัญหาตัวฮาร์ดแวร์อื่นต่อท้ายอีก เปลี่ยนเครื่องใหม่เถอะครับ ฮา
กระแสเงินสด/สินเชื่อ/โปรโมชั่น เอื้อต่อการจ่ายโดยไม่เดือดร้อนหรือไม่ ?
ซื้อเลย ซื้อเลย ซื้อเลย
อ่ะ ๆ ๆ ถ้าสมาร์ทโฟนที่มีอยู่นั้นไม่ได้ผิดปกติอะไร คือแบบว่าชั้นอยากได้เครื่องใหม่ชิค ๆ เก๋ ๆ ก็คงไม่มีใครอยากจะห้ามคุณหรอกนะ แต่ก็ควรทบทวนตัวเองในเรื่องความ “จำเป็น (Need)” หรือ “ต้องการ (Want)” ก่อน ประกอบกับเรื่องการเงิน เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ดังนี้
- มีงบประมาณเพียงพอกับสมาร์ทโฟนที่คุณอยากได้หรือไม่?
คงไม่ใช่การตัดสินใจที่ดี ที่ต้องกู้เงินเพื่อซื้อสมาร์ทโฟนสุดแพงเพื่อเป็นเครื่องบ่งบอกสถานะทางสังคม … ถ้าซื้อแล้วลำบากต่อชีวิต ผมไม่แนะนำเด็ดขาดเลย - มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง ที่คุณรู้สึกว่าเหมาะกับตัวคุณ?
ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดค่าเครื่อง + ค่าบริการ ที่ทำให้ประหยัดงบไปได้พอสมควร แล้วแต่แพลนและช่วงเวลานั้น ๆ - คุณมีบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดหรือไม่?
เพราะการจ่ายแบบผ่อนชำระแบบดอกเบี้ย 0% เป็นออปชั่นที่ยืดหยุ่นดีในการเลี่ยงจ่ายเงินก้อนโตในรวดเดียวจบ อีกทั้งช่วยปั่นคะแนนอีกต่างหาก
อ่อ ถ้าสมาร์ทโฟนเครื่องเก่ายังดีอยู่ การนำไปขายเป็นเงินสมบทการซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ก็เป็นแนวคิดที่ไม่เลวเหมือนกันนะ
ยิ่งสมาร์ทโฟนระดับเรือธงใน 2017 กลับมาทำราคาที่สูงขึ้นกว่าช่วงปีก่อน ๆ การจัดสรรงบประมาณได้ดีพอ ประกอบกับการมีเหตุผลและปัจจัยที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การซื้อสมาร์ทโฟนนั้นคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง ถ้าไม่รู้ว่าจะลองดูราคาสมาร์ทโฟนที่ไหน ? ลองดูใน Wemall ก่อนก็ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ไว้ใจได้เลยทีเดียวแหละครับ 😀
