สวัสดีค่ะ！พบกันอีกแล้วกับคอลัมน์ Trendy Soceity วันนี้เราจะพาทุกๆ คนมาทำความรู้จักกับ “โยคะร้อน และโยคะเย็น” คุณอาจจะเคยได้ยินกัน แต่คงจะไม่รู้ว่ามันต่างกันอย่างไร เรามีคำตอบให้คุณแน่นอน โยคะ ได้ถือกำเนิดในประเทศอินเดียเมื่อหลายพันปีมาแล้ว โดยมีนักปราชญ์ชาวฮินดูท่านหนึ่งชื่อว่า “ปตัญชลี“ เป็นผู้คิดค้น และปรับปรุงการฝึกโยคะขั้นพื้นฐาน โดยผู้ที่ปฏิบัติโยคะที่เป็นผู้ชายจะเรียกว่า โยคิน หรือ โยคี ผู้หญิงจะเรียกว่า โยคินี ส่วนผู้เป็นอาจารย์สอนเรียกว่า คุรุ (ครู)
โยคะ เป็นการสร้างความสมดุลของร่างกาย-จิตใจ และจิตวิญญาณ ให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งการฝึกโยคะจะประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การออกกำลังกายหรือการฝึกท่าโยคะ การหายใจหรือลมปราณ การทำสมาธิ โดยการฝึกท่าโยคะจะช่วยกระตุ้นเลือดลม เส้นประสาทและต่อมต่างๆ ภายในร่างกายให้ทำงานดีขึ้น
โยคะร้อน และโยคะเย็น ต่างกันอย่างไร？
โยคะร้อน (Bikram Yoga)
รูปภาพจาก: cf.lnwfile.com
โยคะร้อน เป็นอีกหนึ่งศาสตร์แห่งโยคะ จะมีท่าประกอบทั้งหมด 26 ท่า โดยผู้เล่นจะอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิสูงที่ใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกาย ประมาณ 36-37 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นได้ดีมากกว่าอุณหภูมิปกติ และการเล่นท่าต่างๆ ของโยคะร้อนจะช่วยกระชับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลดการปวดหลังและคอ รวมทั้งช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ร่างกายสามารถกำจัดของเสียออกมาในรูปของเหงื่อได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการลดน้ำหนักและอยากให้หุ่นสวย เราขอแนะนำให้เล่นโยคะร้อนนะคะ เพราะสามารถกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินจากร่างกายได้มีประสิทธิภาพ
โยคะเย็น (Yoga)
รูปภาพจาก: nigeriacongress.org
โยคะเย็น เป็นศาสตร์โยคะที่ฝึกและเล่นกันทั่วไปหรือปูเสื่อเล่นในสถานที่กลางแจ้ง เช่น ในสวน แต่ถ้าเล่นในห้องก็จะเป็นอุณหภูมิห้องปกติ มีอากาศถ่ายเทสะดวก ช่วยให้สามารถเล่นโยคะ ง่ายขึ้นและสามารถเล่นได้นาน ผู้เล่นโยคะจะไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยมากนัก และร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ แต่อาจจะเผาผลาญได้ไม่มากเท่ากับการเล่นโยคะร้อน
รูปภาพจาก: yoga-teacher-trainings.com
คงจะทราบกันแล้วนะคะว่า โยคะร้อนและโยคะเย็นต่างกันอย่างไร คุณสามารถเลือกเล่นโยคะได้ในแบบตัวคุณ และการเล่นโยคะถ้าอยากให้เห็นผลไว ก็ควรเล่นอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายของเราได้ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ มีสรีระร่างกายสมส่วน ทั้งนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ ต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ อาจจะงดเว้นการฝึกในบางท่า เช่น ท่าที่ต้องมีการก้มศีรษะ เพื่อป้องกันอาการหน้ามืด และในสัปดาห์ต่อไปเราจะนำเสนอเคล็ดลับหุ่นสวยด้วยท่าโยคะง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้ แถมยังช่วยลดไขมัน ให้หุ่นเฟิร์มกระชับ อย่าลืมติดตามกันได้ในคอลัมน์ Trendy Soceity
ที่มา: th.wikipedia.org , sanook.com
สามารถเลือกซื้อและช้อปสินค้าของหมวดไลฟ์สไตล์ ได้ที่นี >ไลฟ์สไตล์<
