เมื่อพูดถึง Gadget เพื่อสุขภาพอย่างเจ้า Activity Tracker เชื่อว่าหลายคนที่รู้จักสิ่งนี้ คงจะนึกถึง Fitbit อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก (ถ้ายังไม่รู้จัก แนะนำให้อ่าน >อันนี้< ก่อนนะฮะ) เพราะเป็นบริษัทที่ทำให้อุปกรณ์แสนน่าเบื่อหรือยุ่งยากในอดีต มีความเฉพาะทางสูงแบบนี้ ก้าวเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของเราได้อย่างเรียบง่ายและราบรื่นมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่การสวมใส่, การจัดเก็บข้อมูล, การนำข้อมูลไปใช้ต่อ อีกทั้งยังตอบโจทย์ผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่มที่อยากได้ฟีเจอร์การใช้งานของ Activity Tracker ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งข้อดีของการแบ่งแยกรุ่นต่างๆให้มีหลายไลน์การผลิตสินค้านั้นนอกจากจะช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับการใช้งานของกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างกันออกไปแล้ว ยังตอบโจทย์เรื่องงบประมาณในการซื้อที่คุณสามารถเลือกซื้อตัวที่มีฟีเจอร์เพียงพอต่อการใช้งานแต่ราคาจับต้องได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นการซอยรุ่นของ Fitbit ที่ค่อนข้างเยอะเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายนี้ อาจสร้างความสับสนงงงวยว่า Fitbit ตัวไหนหละที่มีฟีเจอร์การใช้งานเหมาะกับเรามากที่สุด ซึ่ง ณ วันที่เขียน (8 พฤษภาคม 2560) นั้นก็มีให้เลือกซื้อมากถึง 10 รุ่นแล้ว ..แม่เจ้า !!! ซึ่งเราจะแบ่งแยกสินค้าออกตามกลุ่มผู้ใช้งานอย่างกว้างๆได้ดังนี้
Fitbit
วิถีพอเพียง
ผู้ใช้งาน Activity Tracker ช่วงกลุ่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสามารถซึ่งครอบคลุมฟังค์ชั่นพื้นฐาน (นับก้าวเดิน, การนอน, การเผาพลาญแคลอรี่) เช่น การเหน็บไว้ที่เข็มขัด, ขอบกางเกง ฯลฯ ที่ติดตัวคุณได้ แต่.. สินค้าในกลุ่มนี้อาจหาซื้อยากสักหน่อยในประเทศไทยเพราะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไรนัก
จุดเด่น แบ่งตามรุ่น
Fitbit zip : ถูกที่สุดในบรรดา Fitbit, แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 6 เดือน
Fitbit one : เป็นนาฬิกาปลุกแบบสั่นได้, จอ OLED ในตัวสู้แดดได้ดี พอใช้ดูเวลาได้ แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 14 วัน
คุณสมบัติ :
นับก้าวเดิน, การนอน, การเผาพลาญแคลอรี่, นาฬิกา+ปลุก (เฉพาะรุ่น one)
เหมาะสำหรับ :
ผู้ที่ไม่ต้องการลงทุนที่แพงแต่ได้ใช้แบรนด์อันน่าเชื่อถือ และผู้ไม่ชอบสวมใส่อุปกรณ์หรือเครื่องประดับบนข้อมือ
Fitbit zip (ซ้าย) และ Fitbit one (ขวา)
สายแฟชั่นฯ
หรือผู้มองหา Activity Tracker ที่ไม่ดูเป็นของเล่น IT
กลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มทิศทางหลักของผู้ผลิตหลายเจ้าที่พยายามเข้าถึงกลุ่มบุคคลที่ยังไม่ใช้ Activity Tracker เนื่องจากรูปทรงที่ดูทื่อๆ ดูไม่สวยงามพอในสายตาใครต่อใครหลายคน เพื่อลดความโดดเด่นของอุปกรณ์ขณะสวมใส่ ฟีเจอร์ด้านจอแสดงผลจึงถูกเปลี่ยนเป็นไฟ LED ตัวเครื่องถูกลดขนาดจนเล็กที่สุดในกลุ่ม Fitbit ด้วยกัน แต่ตัวเครื่องยังสามารถแจ้งเตือนข้อความบนสมาร์ตโฟนผ่านการสั่น, นาฬิกาปลุกแบบสั่น, นับก้าวเดิน, การนอน, การเผาพลาญแคลอรี่ พร้อมฟีเจอร์สำหรับชาวออฟฟิศด้วยการเตือนให้ลุก,เดิน,ขยับตัวบ้าง
จุดเด่น
Fitbit Flex : เครื่องขนาดเล็ก, ถอดเปลี่ยนสายรัดได้, แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 5 วัน
Fitbit Flex 2 : เครื่องขนาดเล็กที่สุดเท่าที่ Fitbit ผลิตมา, ถอดเปลี่ยนสายรัดได้, สามารถเปลี่ยนสายรัดเป็นกำไล หรือ สร้อยคอได้ตามใจชอบ ตามวาระโอกาส และตามธีมการแต่งกายของคุณ, แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 5 วัน
คุณสมบัติ :
นับก้าวเดิน, การนอน, การเผาพลาญแคลอรี่, นาฬิกาปลุก, การเตือนให้ลุก (เฉพาะ Flex 2)
เหมาะสำหรับ :
ผู้ที่รักการแต่งตัว ไม่ชอบสวมใส่อะไรที่เทอะทะบนข้อมือ แต่ยังต่อการดูแลตัวเองด้วยอุปกรณ์ประเภท Activity Tracker
Fitbit Flex (ซ้าย) และ Fitbit Flex 2 (ขวา)
ทางสายกลาง
ไม่สุดทางแฟชั่น หรือฟิตเนส แต่เอามันทั้งคู่
ต่อยอดจาก Fitbit Flex 2 สำหรับผู้ที่เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสุขภาพมากขึ้นมาอีกระดับ แต่ยังคงลุคคูลๆ เท่ สวย เหมือนสวมใส่เครื่องประดับ โดยเครื่องจะมีขนาดใหญ่กว่า Flex 2 มาบ้าง แต่ไม่เทอะทะ จอ OLED ในตัว ทำให้แสดงข้อมูลได้มากกว่าไฟ LED ทำให้เริ่มใช้ทดแทนนาฬิกาข้อมือก็ได้ และไม่พลาดทุกกิจกรรมกีฬาด้วย SmartTrack™ ที่เครื่องจะคาดคะเนรูปแบบกิจกรรมการเคลื่อนไหวของคุณอัตโนมัติ ไม่ต้องเปิดแอพมาตั้งการบันทึกเอง อีกทั้งยังเปลี่ยนสายรัดได้อีกด้วย
Fitbit Alta (ซ้าย) และ Fitbit Alta HR (ขวา)
จุดเด่น แบ่งตามรุ่น
Fitbit Alta : มีจอแสดงผล OLED ในตัว, คงรูปร่างอันสวยงามดั่งเครื่องประดับ, SmartTrack™ แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 5 วัน
Fitbit Alta HR : มีเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse® แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 7 วัน
คุณสมบัติ :
นับก้าวเดิน, การนอน, การเผาพลาญแคลอรี่, นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, การเตือนให้ลุก, แจ้งเตือนโทรศัพท์ ข้อความ และการนัดหมายจากสมาร์ตโฟน, SmartTrack™, ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse® (เฉพาะรุ่น Alta HR)
เหมาะสำหรับ :
ผู้ที่ต้องการทั้งความสวยงานและความสามารถ ไม่เน้นหนักไปด้านใดด้านหนึ่งมากนัก
สายฟิตเนส
หรือผู้ต้องการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
Fitbit ที่พบเห็นโดยทั่วไปคือ Fitbit Charge นี่แหละ เครื่องที่มีจอแถวเดียวเล็กเล๊ก แต่มากด้วยความสามารถในการ Track หลากหลายรูปแบบอย่างแพรวพราวมาก โดย Fitbit รุ่นนี้คือต้นแบบในแง่ของฟีเจอร์ของรุ่นเล็กๆ ที่กล่าวไปก็ว่าได้ แต่เนื่องจากดีไซน์ยังออกไปแนวเฉพาะทาง (รุ่น Fitbit Charge, Fitbit Charge HR) สำหรับบางคนอาจไม่ถูกใจสักเท่าไหร่
จุดเด่น แบ่งตามรุ่น
Fitbit Charge : ราคาถูกกว่าก่อน เพราะในปัจจุบันถือว่าเป็นรุ่นเก่า
Fitbit Charge HR : มี SmartTrack™, โหมดออกกำลังกายเฉพาะทาง, เซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse® แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 7-10 วัน
Fitbit Charge 2 : ทุกสิ่งที่ Charge HR มีในแง่ฟีเจอร์ ผสมกับรูปร่างดีไซน์แอบละม้ายคล้าย Alta HR ยืดขยาย แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 5 วัน
คุณสมบัติ :
มีในทุกรุ่น – นับก้าวเดิน, การนอน, การเผาพลาญแคลอรี่, การนับขั้นบันได, นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, การเตือนให้ลุก, แจ้งเตือนโทรศัพท์ ข้อความ และการนัดหมายจากสมาร์ตโฟน
เฉพาะรุ่น Charge HR, Charge 2 – SmartTrack™, ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse®, โหมดออกกำลังกายเฉพาะทาง
เฉพาะรุ่น Charge 2 – GPS, โหมดแนะนำการหายใจ, Cardio Fitness Level
เหมาะสำหรับ :
ผู้ที่ต้องการความจริงจังในการออกกำลังกายเป็นหลัก เน้นฟีเจอร์การบันทึกข้อมูลที่หลากหลายมากที่สุดเท่าที่จะหาได้
เรียงจากซ้ายไปขวา : Fitbit Charge, Fitbit Charge HR, Fitbit Charge 2
สายโหด สายชอบตัว Top
จอใหญ่สุด ฟีเจอร์เยอะสุด ที่สุดของที่สุด แบตเตอรี่อยู่นานมาก ไม่มีรุ่นไหนให้ได้มากเท่ากลุ่มนี้อีกแล้ว
Fitbit Surge (ซ้าย) และ Fitbit Blaze (ขวา)
จุดเด่น แบ่งตามรุ่น
Fitbit surge : จอขนาดใหญ่, แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 7-10 วัน
Fitbit blaze : ทุกสิ่งที่ Charge 2 มี, จอสีขนาดใหญ่, On-Screen Workouts, เปลี่ยนสายรัดและกรอบตัวเครื่องได้, แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 5 วัน
คุณสมบัติ :
มีในทุกรุ่น – นับก้าวเดิน, การนอน, การเผาพลาญแคลอรี่, การนับขั้นบันได, นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, การเตือนให้ลุก, แจ้งเตือนโทรศัพท์ ข้อความ การนัดหมาย และควบคุมการเล่นเพลงจากสมาร์ตโฟน, SmartTrack™, ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse®, โหมดออกกำลังกายเฉพาะทาง, GPS
เฉพาะรุ่น blaze – โหมดแนะนำการหายใจ, Cardio Fitness Level, On-Screen Workouts
เหมาะสำหรับ :
ผู้ที่ต้องการความจริงจังในการออกกำลังกายเป็นหลัก เน้นฟีเจอร์การบันทึกข้อมูลที่หลากหลายมากที่สุดเท่าที่จะหาได้ และต้องการจอแสดงผลใหญ่พิเศษ ใช้ทดแทนนาฬิกาข้อมือ
จะเห็นได้ว่า จำนวนรุ่นที่ออกมาล้นตลาดพอๆกับรสชาติของมาม่าคัพสำหรับ Fitbit นั้นแม้จะมีมากมายหลากหลายรูปแบบที่อาจจะสร้างความมึนงงให้กับผู้เลือกใช้อย่างเราๆ แต่เมื่อเจาะดูคุณสมบัติแต่ละกลุ่มดูแล้วนั้น จะพบได้ว่าแต่ละรุ่นไม่ได้แค่ออกแบบมาเพื่อสักแต่ขายอย่างเดียว แต่ออกแบบโดนพิจารณาถึงฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มผู้ใช้อย่างเหมาะสมที่สุด ไม่ใช่สักแต่มีฟีเจอร์มากที่สุด แต่ฟีเจอร์เหล่านั้นไม่เหมาะกับคุณ หรือไม่ได้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงเลย ทั้งนี้เราหวังว่าท่านจะได้เลือกซื้อเลือกหาอุปกรณ์ Activity Trackers จาก Fitbit ได้ตรงตามการใช้งานและเหมาะสมกับงบประมาณมากยิ่งขึ้นจากบทความนี้ครับนะครับ
เลือกซื้อและช้อปสินค้าของหมวดแก็ดเจ็ต ได้ที่นี >แก็ดเจ็ต<
