ในช่วงเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ “ความปลอดภัย” เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกทั้งของตัวคุณแม่และของลูกน้อยในท้อง ดังนั้นจึงควรเพิ่มความระมัดระวังต่อปัจจัยหลายๆด้านที่สามารถควบคุมได้ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์เพราะสภาวะแวดล้อม, อาหารการกิน รวมถึงสภาพจิตใจ ล้วนส่งผลกระทบต่อคุณแม่หรือลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะปัจจัยต่างๆทั้ง 7 สิ่งที่เรายกมาพูดถึงนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ควรหลีกเลี่ยงหรือควบคุมในขณะตั้งครรภ์ ส่วนจะมีอะไรบ้างต้องติดตามดูกันค่ะ
1.ความเครียด
ความเครียดเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ที่มักจะมีความกังวลใจในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยของลูกน้อย ,เรื่องสุขภาพ , ความพร้อมในการเป็นคุณแม่ สะสมจนกลายเป็นความเครียดมากกว่าสภาวะปกติ ซึ่งส่งผลถึงลูกน้อยในครรภ์ที่มีโอกาสจะเป็นเด็กงอแง เลี้ยงยาก และส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองของลูกอีกด้วย ฉะนั้น หากเป็นไปได้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงหรือหากิจกรรมที่ชื่นชอบและปลอดภัยทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดลง
2.เดินและเคลื่อนไหวเร็ว
การเคลื่อนไหวร่างกายของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์แน่นอนว่าย่อมแตกต่างจากการเคลื่อนไหวร่างกายในเวลาปกติเพราะขนาดของท้องที่ใหญ่มากขึ้นทำให้สมดุลในการทรงตัวและเคลื่อนไหวร่างกายนั้นแตกต่างกันออกไป จึงเป็นสาเหตุให้เกิออุบัติเหตุจากการหกล้มหรือลื่นล้มได้ง่ายกว่าสภาวะปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยแล้วคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรระลึกอยู่เสมอว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองนั้นไม่เหมือนปกติอยู่ จึงควรลดความเร็วในการเดินลงและควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมใดๆที่ต้องใช้ความเร็วในการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
3.งดใส่รองเท้าส้นสูง
รองเท้าส้นสูงกับผู้หญิงเป็นของคู่กันเพราะการสวมใส่รองเท้าส้นสูงนั้นเพิ่มความมั่นใจและช่วยเสริมบุคคลิกภาพให้กับผู้สวมใส่ได้ แต่คงไม่เหมาะกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่เพราะการใส่รองเท้าส้นสูงนั้นทำให้กล้ามเนื้อบริเวณน่อง, ต้นขา, เอวและหลัง รู้สึกตึงมากกว่าการสวมใส่รองเท้าตามปกติ ทำให้มีอาการปวด และยังอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติในขณะที่สวมใส่รองเท้าส้นสูง
4.ปรึกษาแพทย์ก่อนทานยา
ถึงแม้ว่ายาจะถูกออกแบบมาให้ช่วยบรรเทาอาการหรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่ยาบางชนิดก็อาจมีผลข้างเคียงของยาที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือร้ายแรงกว่านั้นก็คือการก่อให้เกิดความอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ยิ่งช่วง 12 สัปดาห์แรก ซึ่งเป็นช่วงที่ตัวอ่อนกำลังก่อร่างสร้างอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ยาบางชนิดอาจจะส่งผลอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ ถึงขั้นพิการแขนขา ปากแหว่ง เพดานโหว่ได้ หากคุณแม่มีความจำเป็นที่จะต้องกินยาชนิดใดจริงๆ ก็ควรปรึษาแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่เองและลูกน้อย
5.หลีกเลี่ยงการนอนดึก
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรได้รับการพักผ่อนประมาณ 8-9 ชั่วโมงต่อวัน หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรต่ำกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษสูงกว่าปกติ และยังเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ได้ ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรเข้านอนแต่หัวค่ำและพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อป้องกันอันตรายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้
6.หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด
ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั้นควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อตัวคุณแม่และลูกน้อย เช่นอาหารที่ปรุงด้วยความมันมากจนเกินไป หวานจนเกินไป เผ็ดจัด เนื้อสัตว์ที่กึ่งดิบ กึ่งสุก ของหมักดอง อาหารกระป๋องรวมไปถึงอาหารที่ใส่ผงชูรส และน้ำอัดลม เพราะหากได้รับในปริมาณที่มากจนเกินไปจะทำให้คุณแม่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคอ้วน จนก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆซึ่งส่งผลถึงความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์ด้วย
7.หลีกเลี่ยงการใส่ชุดแน่นหรือพอดีจนเกินไป
ในขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันอยู่ตลอดเวลาทั้งในเรื่องขนาดของร่างกายที่ส่งผลถึงความสะดวกสบายในการเคลื่อนไหว ซึ่งการสวมใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัวหรือรัดแน่นจนเกินไปอาจทำให้หายใจไม่สะดวกถึงขั้นหน้ามืดเป็นลมไปได้ ฉะนั้น คุณแม่ควรเลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วรู้สึกสบายๆ ไม่รัดแน่นจนรู้สึกอึดอัด ระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ขณะตั้งครรภ์ยังอาจมีการผันผวนและเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนทางเพศ ที่จะทำให้คุณแม่มีกลิ่นตัว ดังนั้นการที่สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจะทำให้การระบายอากาศนั้นทำได้ไม่ดีนักส่งผลถึงการก่อให้เกิดกลิ่นอับที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเคลื่อนไหวร่างกายที่ทำได้ยากมากขึ้น
จากคำแนะนำด้านบนที่ได้เล่าให้ฟังนั้นจะเห็นว่าปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการตั้งครรภ์นั้นเกิดจากทั้งภายนอกทางร่างกายและภายในทางด้านจิตใจซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตัวคุณแม่รวมถึงลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงผลกระทบจากปัจจัยที่ไม่ดีต่างๆจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณแม่และลูกน้อยที่จะให้สภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่นั้นพร้อมสำหรับการคลอดอย่างปลอดภัย รวมถึงสภาพความพร้อมของลูกน้อยทางด้านอารมณ์และร่างกายที่จะเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มีความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจค่ะ
เลือกซื้อและช้อปสินค้าของหมวดแม่และเด็ก ได้ที่นี >แม่และเด็ก<