- กล้องคู่ให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก เมื่อเทียบกับราคาและตัวเลือกในตลาด
- ประสิทธิภาพค่อนข้างดี ลื่นไหลไม่หน่วงให้เห็นบ่อยนัก
- แบตเตอรี่จุไฟเยอะ ใช้งานได้ทั้งวันอย่างสบาย
- Android 8 ตั้งแต่แกะกล่อง
- เสียงสนทนาสายโทรศัพท์ชัดเจนได้ใจความ
- กล้องให้ผลลัพธ์แย่เมื่อเจอสภาพแสงน้อย
- ภาพชัดหลังเบลอ มีเบลอผิดจุดเกิดขึ้นง่ายไปนิด
- มีซอฟต์แวร์และการปรับแต่งเยอะมากจนดูพยายามมากไป
Huawei Y9 นั้นเหมาะมากกับผู้ที่ชื่นชอบการ Selfie เป็นชีวิตจิตใจ ถ่ายรูปวิว รูปเพื่อน รูปตัวเอง ฯลฯ ต้องการใช้งานแอปแชตเอย โซเชียลเอย รวมไปถึงเกมสไตล์แคชชวลเบาๆ ใช้ทำงานได้ไม่ได้เน้นเพอร์เฟกต์ในทุกอณู ยอมรับจุดด้อยบางอย่างได้ เน้นคุ้มค่าในงบไม่เกิน ฿6,990 (ราคาเต็ม เครื่องเปล่า) หรือ ฿4,990 (พร้อมโปรโมชั่นเครื่องข่ายฯ) ไม่อยากจ่ายเงินระดับพรีเมี่ยมหลายหมื่นบาทไปกับสมาร์ทโฟนเรือธง เรียกได้ว่า Y9 ตอบโจทย์สายเน้นคุ้มค่าอย่างจริงจัง
[block]1[/block] Y9 สมาร์ทโฟนกล้อง 4 ตัว ในราคามาเป็นมิตร
กล้องคู่ กลายเป็นของเด่นในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับบน ไฮเอนด์ และโด่งดังกันไม่น้อย อย่างก่อนหน้านี้ ที่ Huawei จับมือกับ Leica ชิมลางเปิดตัวใหญ่กับ Huawei P9 แล้วทดลองทำมือถือกล้องคู่ในระดับราคาพอจับต้องได้ไปกับ Huawei Nova 2i กันไป แต่ท่าทาง Huawei ยังไม่หยุดแค่นั้น ยังจะออกรุ่นที่ราคาถูกลงไปอีกขั้น แต่มาพร้อมกล้องคู่หน้า-หลัง เจาะกลุ่มเบี้ยน้อยหอยน้อยโดยเฉพาะ ไม่อยากจ่ายแพงโดยเฉพาะ วันนี้เรา WeMall จะมาลองเล่น Huawei Y9 สมาร์ทโฟนกล้องมากตัวที่ราคาเป็นมิตรกันดู
Note: ได้รับการเอื้อเฟื้ออุปกรณ์จาก Huawei ประเทศไทยและ TrueMove H
ฮาร์ดแวร์
เริ่มต้นกับฮาร์ดแวร์และดีไซน์โดยรวม รูปทรงนั้นไม่หนีห่างจากเทรนด์สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่สักเท่าไหร่นัก ด้านหน้าเครื่องเป็นวัสดุกระจกล้วน ขนาดจอ 5.93″ ใหญ่โตมาก สัดส่วน 18:9
ด้านหลังเป็นโลหะพ่นสีเรียบง่าย ไม่มีอะไรเยอะแยะ ให้สัมผัสที่ดี ไม่ง่อนแง่น แต่จะดีกว่านี้มากถ้าไม่ลื่น
ส่วนตัวคิดว่าทรงยังไม่สมดุลดีในอุ้มมือ จับไม่ค่อยสะดวกในบางครั้ง คนมือเล็กอาจใช้งานลำบากหน่อย คนเหงื่อออกง่ายควรหุ้มเคสปกป้องสมาร์ทโฟน ถ้าไม่อยากให้มือถือหลุดมือ
ด้านกล้องถ่ายภาพ
ทดลองกล้อง Y9
โหมดเด่น ๆ ของ Huawei Y9
Huawei Y9 มีกล้องคู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องตัวรองละเอียด 2 ล้านพิกเซลเหมือนกัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีหน้าที่ในการมองมิติชัดลึก-ตื้นเป็นหลัก ไม่ได้ใช้ถ่ายรูปโดยตรงแต่อย่างใด
ภาพจากกล้องมีความหน้าชัดหลังเบลอดีพอประมาณ ด้วยความช่วยเหลือของเลนส์รองที่ช่วยวัดมิติ กล้องหลักให้ภาพที่ชัดเพียงพอใช้งานได้ดี โดยเฉพาะในฉากที่มีแสงจ้ากระทบ (ไม่ใช่ถ่ายย้อนแสง) การโฟกัสค่อนข้างแม่นยำได้ดั่งใจ มีช้าบ้างนิดหน่อย แต่ช้าหนักกว่าเมื่อเจอบางสภาวะเพราะตอนขณะเล็ง
เมื่อเปิดดูผ่านคอมพิวเตอร์อาจพบว่ามีนอยซ์ค่อยข้างสูง ซึ่งเป็นปกติของกล้องสมาร์ทโฟนระดับราคาประมาณนี้อยู่แล้ว
ฟังก์ชั่นเบลอซอฟต์แวร์อาจต้องลองบ่อย บางทีเบลอไม่เนียน ไปเบลอในจุดนี้ไม่จำเป็นงี้ และด้อยในพื้นที่แสงน้อย แต่โดยรวมแล้วค่อนข้างให้ผลลัพท์ที่พอใจกับการถ่ายรูปขำขำ
โหมดถ่ายรูปมีให้เลือกอย่างมากมายอยู่ คือคล้ายในรุ่นพี่ของ Huawei ทั้งหลาย รวมถึงโหมด Pro เพื่อการถ่ายภาพได้ดั่งในมากกว่าที่โหมดอัตโนมัติ ถ้ามีขาตั้งสมาร์ทโฟนกับเวลาปรับค่า Setting ในโหมด Pro ก็จะได้ภาพที่คมชัดกว่า โดยเฉพาะในเวลากลางคืนแสงน้อย
เมื่อเทียบกับค่าตัวของสมาร์ทโฟน ถ้าแค่อัปโหลด Instagram, Facebook นี่คือใช้ได้สบายๆ โดยเฉพาะในตอนกลางวันแสงสว่างจ้า จะให้ผลลัพธ์ได้ดีเลิศมาก
ประสิทธิภาพการใช้งาน
เปิด 2 App ในหน้าจอเดียว
หนึ่งในฟีเจอร์ของ Android 8 ที่สามารถใช้งานมัลติทาสก์พร้อมกัน
Y9 วางตัวอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่หนืดหรือหน่วงให้เห็น ด้วย Octa Core CPU คู่กับ RAM 3 GB เปิดแอปได้หลายแอปประมาณหนึ่ง แต่ ROM 32 GB น้อยไปแน่นอนสำหรับสาย Vlog หรือสายเกม แค่ตัว OS ก็ล่อไป 6 GB แล้ว.. ยังดีที่รองรับ Micro SD สูงสุด 256 GB
การเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi หรือ LTE นั้นรองรับทุกสิ่งอัน ใส่ซิมการ์ดสองใบพร้อมกัน และ Micro SD ได้ ไม่งกถาดแบบหลายรุ่น
คุยเพลินได้ทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ความจุมหาศาล 4000 mAh จากที่ลองใช้แบบคร่าวๆ ใช้งานไม่ได้เยอะแยะ คืออยู่ได้ทั้งวัน ถ้าลงหลายแอปฯอาจแบตอยู่ไม่นานข้ามวัน แต่ปริมาณขนาดนี้ ผมคาดว่าเหมาะกับคนต้องการมือถือแบตอึดอย่างแน่นอน
แม้เน้นทำราคาเป็นหลัก แต่ความปลอดภัยก็ยังมีให้ใช้ อย่างเซนเซอร์ลายนิ้วมือให้การตอบสนองดีพอตัวเลย และมี Face Unlock ด้วย แปลกใจมากว่ามี ลองเล่นก็ว่องไวดีด้วยเลนส์คู่ ไม่รู้ Huawei ปรับแต่งอะไรบ้าง แต่อ๊ะๆ มันปลดได้บ้างไม่ได้บ้าง พึ่งพาไม่ได้ตลอดเวลา เรียกว่ายังดีกว่าไม่ล็อกเครื่องเลยประมาณนั้น
ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ของเครื่องเปิดมาด้วยข้อดีอย่าง Android 8 ตั้งแต่แกะกล่องเลย อัปเดตความปลอดภัยล่าสุดเดือนมกราคม 2018 เนื่องจาก Android 8 สามารถเปิดสองแอปในหน้าจอเดียวได้ ทำให้ใช้ประโยชน์ของจอ 5.93″ ได้เป็นดีเลยทีเดียว ผู้ชอบโมชอบปรับนั่นนี่คงรัก เพราะมี Tools สารพัดสิ่งให้ปรับแต่งเครื่องได้ดั่งใจ แต่สำหรับบางคน (เช่นผม) รู้สึกว่ามันเยอะจนรกไปหน่อยนะ Huawei จ๋า พี่งงเด้อ
สรุป
แม้จะไม่ได้เด่นอะไร หรือมีข้อเสียบ้าง แต่รุ่นนี้เกิดมาเพื่อความคุ้มค่าล้วนๆ พ่วงกับสินค้าแถมที่มีราคารวมเท่ากับ 4,990 บาท สินค้าที่ว่าก็ไม่ได้ธรรมดานะครับ เพราะแถม Body Fat Scale เครื่องชั่งที่วัดข้อมูลร่างกายได้มากถึง 9 อย่าง แค่เครื่องชั่งที่ว่านี้ ก็ราคา 2,990 แล้วแหละนะ