CCTV กับ IP Cam อะไรดีกว่ากัน ?

จู่ๆ ตกเป็นผู้เคราะห์ร้าย โดยโจรย่องเข้าบ้านก็ถือว่าแย่แล้ว แต่คงแย่ยิ่งกว่าถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัวเพื่อเอาผิด หรือหากมีกิจการเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถจับพิรุธลูกน้องที่มีพฤติกรรมมิชอบมาพากลได้ อันนี้ก็เสี่ยงสุดๆ… แม้หนึ่งในจุดประสงค์ของระบบกล้องวงจรปิดนั้น มีไว้บันทึกเหตุการณ์ที่มิคาดคิด ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตคุณในละแวกที่อาศัยประจำเลยก็ตามทีเถอะ แต่การมีอุปกรณ์ช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตาไว้ ก็ดีกว่าไม่มีแน่นอน ทว่าตัวเลือกที่เลื่อมล้ำกันในปัจจุบัน อาจชวนงงว่าแล้วอุปกรณ์สอดส่องแบบไหนที่เหมาะกับฉันหล่ะ ?

วงการกล้องวงจรปิดก็คล้ายกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่แรกเริ่มจากเทคโนโลยีอนาล็อก จนมาเป็นแบบดิจิตอลและ IoT แต่สิ่งที่จะเป็นหลักประกันเพื่อเก็บหลักฐานอันล้ำค่าในเวลาไม่คาดฝันนี้ คือ การเลือกใช้งาน ซึ่งอาจไม่ได้มีแค่แง่เทคโนโลยีเป็นตัวตัดสินใจอย่างเดียวเสมอไป

 

อะไรคือ CCTV ?

cctv-cam_ex

CCTV ในความหมายนี้ คือ Closed-circuit television (อย่าสับสนกับ CCTV ที่เป็นสถานีโทรทัศน์ประเทศจีนนะครับ) ชื่อก็บอกในตัวแหละว่าเป็นโทรทัศน์แบบจำกัดวง ซึ่งแตกต่างกับสื่อโทรทัศน์ทั่วไปที่ออกแบบเพื่อแผร่ภาพให้ผู้คนได้รับชม แต่ระบบนี้เน้นสอดสองพื้นที่เฉพาะ โดยบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

เนื่องจาก CCTV มีมานานตั้งแต่สมัย 1950s จึงถือว่าเป็นเทคโนโลยีแบบอนาล็อก โดยต่อกล้องกับสายเข้ากับอุปกรณ์กลางเพื่อรวมสัญญาณภาพจากกล้องมุมต่างๆ และบันทึกเป็นวิดีโอนั่นเอง ในอดีตนั้นใช้วิดีโอเทป (เกิดทันมั้ยครับ ?) ส่วนปัจจุบันนี้ระบบบันทึกวิดีโอเป็นดิจิตอลกันหมดแล้ว ซึ่งสะดวกขึ้นมากว่าเดิมเยอะ และราคาต่ออุปกรณ์มีหลากหลายมากมายตั้งแต่หลักพันยันหลายหมื่น

 

อะไรคือ IP Camera ?

ip-cam_ex

มีกล้องฟิลม์แล้วก็มีกล้องดิจิตอล ฝั่งกล้องวงจรปิดก็มีกล้องที่เรียกว่า IP Camera นั่นเอง จุดประสงค์มีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใช้ IP โปรโตคอล แบบเดียวกับที่ท่านต่อ Wi-Fi ไถฟีด Facebook หรือต่อสาย LAN กับคอมเพื่อเล่นเกม อะไรประมาณนั้น มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้โดยตรง ไม่ต้องพิ่งพาตัวช่วย

การเกิดขึ้นของ IP Camera นั้นเกิดมาเพื่อพัฒนากล้องสำหรับใช้งานเฉพาะจุดแบบชิ้นเดียวจบ โดยไม่ต้องมีเครื่องบันทึกวิดีโอแยกออกมาให้ยุ่งยาก และเข้าถึงกล้องได้สะดวกมากขึ้นจากที่ไหนก็ได้บนโลก (ถ้าไม่ลืม User ID) และเกิดมาเพื่อเพิ่มคุณภาพของภาพที่ได้ให้มีความคมชัดมากขึ้น จนสามารถแยกแยะรายละเอียดต่างๆ ได้ พร้อมทั้งเปิดรูปแบบการบันทึกภาพใหม่ด้วย cloud computing ฝากไฟล์ไว้ในเซิฟเวอร์ออนไลน์ ทำให้ปลอดภัยมากขึ้นว่าหลักฐานจะไม่สูญหายโดยที่ไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์อัดภาพให้วุ่นวาย

 

ความแตกต่างของ 2 สิ่งนี้

CCTV

  • เป็นกลุ่มสินค้าที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานยาวนานโดยเฉพาะ ไม่ค่อยมีปัญหาถ้าติดตั้งดีพอ
  • เป็นระบบที่มีความเสถียรสูงในตัวของมันเอง ไม่ต้องพิ่งพาอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องพิ่งเราเตอร์
  • กล้องทุกตัวต้องใช้สายต่อกับเครื่องบันทึกโดยตรง ยุ่งยากในการติดตั้ง
  • การ Set-Up และใช้ง่ายอาจไม่ง่ายดายนัก
  • ภาพที่ได้ไม่คมชัดเท่า IP Camera เนื่องจากข้อจำกัดของเทคโนโลยี

IP Camera

  • เป็นกลุ่มสินค้าที่มีตัวเลือกหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการ
  • เป็นระบบที่ติดตั้งง่ายมาก เลือกได้ทั้งแบบใช้สายหรือแบบไร้สาย ต่อเข้ากับ เราเตอร์/access point แบบเดียวกับที่คุณต่อสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ได้เลย
  • ไม่ต้องติดตั้งเครื่องบันทึกวิดีโอก็อัดภาพไว้ได้ ทั้งการพึ่งพาตัวกล้องเอง ให้เราเตอร์/access point อัดไว้ หรือพึ่งพา cloud computing
  • ภาพที่ได้คมชัดกว่า CCTV อย่างเป็นนัยสำคัญ Full HD กันเลยทีเดียว
  • ต้องพิ่งพาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เสถียรพอสมควร ถ้า access point ล่ม ก็เข้าดูไฟล์ภาพไม่ได้
  • มีความเสี่ยงที่หลักฐานจะหายไปด้วย ในกรณีที่ใช้กล้องอัดภาพในตัว แล้วกล้องถูกทำลาย/ลักลอกนำไปทิ้ง
  • มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง ในกรณีใช้ cloud computing ฝากไฟล์ หรือกล้องแบบต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์ 4G LTE

 

ลักษณะที่เหมาะสมของ 2 สิ่งนี้

CCTV

  • ผู้ที่ต้องการความเสถียร โดยไม่เน้นความคมชัดสูงพิเศษ ติดมากกว่า 2 จุด
  • สถานที่ที่สะดวกวางสาย ต้องการความชัวร์โดยไม่ต้องไปแตะต้องพวก Wi-Fi หรือสาย LAN
    เช่น พื้นที่โรงงาน โกดัง บ้านใหญ่และในสวน

IP Camera

  • ผู้ที่ต้องการความความสะดวกสบาย ไม่ต้องการเดินสายหรือไม่ต้องการวางสายอื่นเพิ่มนอกจากสาย LAN
  • สถานที่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องจำนวนมาก หรือในสถานที่ที่เน้นความคมชัดของภาพสูงพิเศษ เช่น บ้านเล็กในหมู่บ้าน อยู่ไม่กี่คน มีทารกที่ต้องการเฝ้าดู ร้านกาแฟชิคๆ หรือร้านค้าสำนักงานขนาดเล็ก

 

จากข้อแตกต่างของ CCTV และ IP Camera ที่กล่าวไป น่าจะพอช่วยให้ผู้อ่านวิเคราะห์ความต้องการ และประเมินเบื้องต้นได้ว่า ควรเลือกซื้ออุปกรณ์สอดส่องความปลอดภัยแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน แต่ไม่ว่าปัจจัยไหนก็ตามที่มาเป็นอันดับหนึ่งในการตัดสินใจ การเลือกซิ้ออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ก็ยังจำเป็นอยู่เสมอ ยังไงลองให้ Wemall  เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคุณได้นะครับ 🙂

0.00 avg. rating (0% score) - 0 votes

Comments

comments

ช้อปปิ้งออนไลน์ WeMall ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่แรกในประเทศไทย