หนึ่งในระบบปฏิบัติการในฝั่ง Smartwatch อย่าง Android Wear ได้ออกระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ 2.0 เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ผลิตหลายเจ้ากำลังทยอยอัปเดตให้กับ Smartwatch ของตนเอง หลังจากที่ Google ปล่อยให้ WatchOS ใน Apple Watch นำหน้าไปกับการอัปเดทระบบปฎิบัติการบน Wearable Gadget ในวงการนี้ไปซักพักใหญ่ โดย Android Wear 2.0 ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความพัฒนาและฟีเจอร์ที่ทำให้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวเลขเวอร์ชั่นที่กระโดดจาก 1.5 เป็น 2.0 คงเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Android Wear นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่นอนหละ วันนี้เราเลยจะพามาดูจุดเด่นชูโรงที่มีเพิ่มเข้ามาพอเป็นน้ำจิ้มกันซัก 6 อย่างใหญ่ๆตามนี้…
Tips: หากคุณไม่ทราบว่าปัจจุบันเวอร์ชั่นที่ Android Wear ที่คุณใช้งานอยู่คือรุ่นใดก็สามารถตรวจสอบเลขเวอร์ชั่นได้บนตัว Android Wear โดยให้เข้าไปที่ Settings > About > Versions แล้วสังเกตตัวเลขที่แสดงอยู่แถวบนสุด
1. Standalone apps.
อย่างแรก ตัว Android Wear สามารถรันแอพได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนไว้ตลอดเวลาดั่งที่เคยแล้ว โดย Android Wear 2.0 จะมี Google Play Store ของตนเองต่างหาก พร้อมกับการใช้ GPS เชื่อมต่อ 3G, 4G LTE โดยไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟน (ตัวนาฬิกาต้องมีช่องใส่ซิมการ์ดนะ) แน่นอนว่าทำให้คุณออกไปวิ่งนอกบ้านโดยไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟน เพียงเพื่อรันแอพออกกำลังกายได้แล้ว
2. Watch faces
นอกจากหน้าปัดที่มีใน OS ราว 250 แบบ หรือโหลดเพิ่มเติมจากหลากหลายแหล่งได้ตามต้องการแล้ว อีกมากมาย ใน 2.0 มี “complications” อันเปรียบได้กับ “widgets” ในฝั่งของสมาร์ทโฟน เสมือนการเลือกแสดงข้อมูลออปชั่นเพิ่มเติมบนหน้าจอได้ตามความต้องการ เช่น การแสดงวัน/เดือน, จำนวนก้าวเดิน และ % แบตเตอรี่ในหน้าปัดนาฬิกา ฯลฯ
3. Google Assistant
ไม่มีอะไรที่ง่ายต่อการป้อนข้อมูลไปกว่าการใช้เสียงอีกแล้ว (ถ้ามันฟังคุณรู้เรื่องนะ) โดย Google Assistant นั้นทำหน้าที่คล้าย Siri บน Apple Watch แต่เพิ่มเติมคือความแข็งแกร่งในด้านการค้นหาที่แน่นอนว่าชื่อของ “Google” ไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งออปชั่นนี้สามารถเลือกได้ว่าจะพร้อมสำหรับการค้นหาผ่านการเปล่งเสียง “Ok, Google” ตลอดเวลา หรือรับคำสั่งการค้นหาด้วยการกดปุ่มบนตัว Smartwatch ก็ทำได้ (แต่การเปิดให้ค้นหาตลอดเวลาเมื่อเปล่งเสียง ต้องระวังเรื่องของแบตเตอรี่ที่จะลดไวขึ้นนะครับ)
4. Google Fit ใหม่
อย่างที่ทราบกันดีว่าแอพออกกำลังการพื้นฐานที่มากับ OS นั้น หนีไม่พ้น Google Fit อย่างแน่นอน ซึ่งในเวอร์ชั่นใหม่นี้รองรับแทร็คการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เจาะจงมากขึ้น เช่นการวิ่ง เลือกได้ว่า เดิน-วิ่ง, วิ่งนอกสถานที่, วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า หรือการแอโรบิค แม้แต่ปีนเขาก็มีให้เลือกใช้งาน
5. Notifications และธีม Material Design
ตามธีมของ Google ที่รูปแบบการออกแบบใหม่สอดคล้องกันในทุก Product และแน่นอน Android Wear 2.0 ก็รับการดีไซน์นี้เข้ามาใช้ด้วยเช่นกัน โดยปรับธีมสีเป็นพื้นที่ทึบ ซึ่งถูกซ้อนทับด้วยข้อความสีโทนสว่าง เพื่อง่ายต่อการมองเห็นหรือการชำเลืองมองผ่านๆ โดยหน้าต่าง Notifications ก็ปรับเปลี่ยนให้แสดงผลได้สะดวกต่อการรับชมโดยเน้นตัว Content เป็นสำคัญ และการ Navigate โดยรวมลื่นไหลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
6. Keyboards (!)
ใช่แล้วครับ … คีย์บอร์ดบนนาฬิกา โดยตัวคีย์บอร์ดจะมาในรูปแบบคีย์บอร์ด 3 แถวขนาดเล็ก(ก็แน่นอนหละ หน้าจอเล็กซะขนาดนั้น !!!) เน้นการใช้ Swipe เพื่อให้ระบบเดาคำที่คุณจงใจจะสื่อ (Smart Replies) เราไม่แน่ใจว่าพอเป็นภาษาไทยแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างไร แต่ก็นับว่าเป็นการพัฒนาเพื่อเพิ่มทางเลือกในการตอบกลับข้อความในกรณีที่ไม่สะดวกพูดให้ Google Assistant แปลงเป็นข้อความ หรือไม่สะดวกใช้สมาร์ทโฟน ณ ตอนนั้นนั่นแหละนะ
จะเห็นได้ว่าระบบเวอร์ชั่นล่าสุดนี้มีพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ มากมายจนเรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับผู้ที่ต้องการทางเลือกอื่นนอกเหนือจาก Apple Watch หรือเพิ่มขีดความสามารถบนนาฬิกาเดิมสำหรับผู้ที่ใช้ android wear อยู่แล้ว อย่างไรก็ดี การอัปเดตระบบล่าสุดนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ผลิต Smartwatch รายนั้นๆ ด้วยนะครับ ติดตามข่าวสารการอัปเดทได้จาก Official Website เพื่อรอรับการอัปเดทจากผู้ผลิตของคุณได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ (เสียใจกับบางคนที่ไม่ได้ไปต่อด้วยเนอะ…)
เลือกซื้อสินค้าในหมวดแก็ตเจ็ต ได้ที่นี่ >แก็ตเจ็ต<