อัพเดตข้อมูลหลังเปิดตัว Samsung Galaxy S8 | S8 Plus

[block]0[/block] Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8 Plus

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8 Plus  ที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ที่เป็นไปตามข่าวลือที่หลุดออกมาช่วงก่อนหน้านี้ และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น  วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาอัพเดตกันค่ะ  เริ่มกันที่ดีไซน์กันก่อนเลย เพราะผิดหูผิดตาไปมากกว่ารุ่นที่ผ่านมา

Samsung Galaxy S8

ดีไซน์ของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8 Plus

ดีไซน์เน้นการออกแบบให้หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ขนาดตัวเครื่องเท่าเดิม ด้วยหน้าจอโค้งแบบไร้ขอบ ทำให้หน้าจอกว้างขึ้น ซึ่งตัวเครื่องจะเป็นโลหะทั้งหมด ส่วนด้านหน้าด้านหลังครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 และไฮไลน์ที่สำคัญคือ “ไม่มีปุ่มโฮม” อีกต่อไป แต่มีปุ่มควบคุมแบบแอนดรอยด์บนหน้าจอ และมีคุณสมบัติรับรู้แรงกด สำหรับปุ่มควบคุมถูกย้ายไปไว้ในหน้าจอแทน ซึ่งมีลักษณะการใช้งานไม่แตกต่างจากแอนดรอยด์ทั่วไป และยังสามารถเปลี่ยนตำแหน่งสลับซ้ายขวาได้ตามถนัด

Galaxy S8

มี 5 สีให้เลือก
สำหรับ Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ จะมี 5 เฉดสีให้เลือก คือ สีดำ (Midnight Black), สีเทา (Orchid Gray), สีเงิน (Arctic Silver), สีฟ้า (Coral Blue) และ สีทอง (Maple Gold) ค่ะ

Samsung Galaxy S8

หน้าจอ

ทั้ง Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ จะมีหน้าจอต่างกัน แต่ก็ยังใช้เทคโนโลยีเดียวกันคือ Super AMOLED ที่เพิ่มความละเอียดมากขึ้น 2960 × 1440 พิกเซลหรือ Quad HD+ เพื่อตอบโจทย์คอนเทนต์วิดีโอแบบ HDR มากขึ้น พร้อมกับอัตราส่วนใหม่ 18.5:9 และฟีเจอร์ Always-on display โดยขนาดหน้าจอของสองรุ่น มีดังต่อไปนี้ค่ะ

• Samsung Galaxy S8 : หน้าจอกว้าง 5.8 นิ้ว สัดส่วนหน้าจอ 83.3%
• Samsung Galaxy S8+ : หน้าจอกว้าง 6.2 นิ้ว สัดส่วนหน้าจอ 83.9%

Samsung Galaxy S8
มีระบบรักษาความปลอดภัยถึง 5 ระบบ

1. Iris Scanner เป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบเซ็นเซอร์สแกนม่านตา
2. Face Recognition ระบบรักษาความปลอดภัยโดยการใช้กล้องหน้าในการเข้าใช้งาน
3. Fingerprint ระบบรักษาความปลอดภัยโดยใช้ลายนิ้วมือในการปลดล็อค
4. Pattern ระบบรักษาความปลอดภัยโดยการลากเส้นเพื่อปลดล็อค
5. Password รักษาความปลอดภัยโดยใช้รหัสผ่าน

Samsung Galaxy S8

“Bixby” ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ
สำหรับคนที่ใช้ iPhone ก็คงจะคุ้นเคยกับ Siri เป็นอย่างดี แต่มาคราวนี้ Samsung Galaxy S8 ก็ไม่น้อยหน้า เพิ่มฟีเจอร์หลัก คือ ระบบสั่งการด้วยเสียงในชื่อ “Bixby” เข้ามา ทางซัมซุงได้เพิ่มปุ่มกดเพื่อที่เรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวนี้ขึ้นมาฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง โดยความสามารถแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อหลัก คือ

1. Voice : คำสั่งเสียงเริ่มต้นใช้งาน เพียงพูดคำว่า “Bixby” ก็สามารถสั่งงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การโทร, การถ่ายภาพ, การค้นหาภาพ หรือการตั้งค่าต่างๆ
2. Vision : การค้นหาข้อมูลที่ผู้ใช้กำลังมองอยู่ เช่น หากมองภาพใดภาพหนึ่งทางผู้ช่วยก็จะค้นหาข้อมูลมาแสดงให้เราได้รู้ว่าในภาพนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เช่น สถานที่, สถานที่ใกล้เคียง เป็นต้น สามารถแปลข้อความ, อ่าน QR Codes ได้
3. Reminder : ทุกการนัดหมายจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เมื่อใกล้ถึงเวลานัดผู้ช่วยส่วนตัวจะมีการแจ้งให้ทราบทันที
4. Home : เป็นศูนย์กลางควบคุม จะรวบรวมแอพพลิเคชัน และการบริการมาไว้ทั้งหมดในหน้าเดียว และจะมีการปรับแต่งการโชว์ข้อมูลข่าวสารให้ตรงกับพฤติกรรมผู้ใช้งานหรือเทรนด์ ณ ขณะนั้นไว้ด้วย


สเปคเครื่องแบบชัดๆ 

• แรม 4 GB ความจุเครื่อง 64 ใส่ microSD ได้สูงสุด 256 GB
• ใช้ระบบ Android 7.0 (Nougat)
• จะใช้แพลตฟอร์ม Qualcomm Snapdragon 835 และ Samsung Exynos 8895 ในการเป็นหัวใจประมวลผล
• ความจุแบต 3,000 mAh(Galaxy S8) และ 3,500 mAh(Galaxy S8+) มีระบบชาร์จไร้สาย
• ใช้ 10nm Processor จะมี CPU ที่เล็กลง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น และเซฟแบตเตอรี่
• ขนาดและน้ำหนัก Galaxy S8: 148.9 x 68.1 x 8 mm, 155g | Galaxy S8+ : 159.5 x 73.4 x 8.1 mm, 173g

กล้อง

• กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7 พร้อมระบบกันสั่น
• กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7 พร้อมระบบจับใบหน้าอัตโนมัติ และสามารถเซพเป็นไฟล์สกุล raw ได้อีกด้วย

Galaxy S8

มีคุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่น
ทั้งคู่มาพร้อมคุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่นมาตรฐาน IP68 สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร เป็นเวลายาวนานถึง 30 นาที สามารถใช้งานกลางฝนได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวเจ๊ง โดยภายในกล้องทางแบรดน์ยังใจป้ำแถมหูฟังแบรนด์เสียงชื่อดังระดับโลกมาด้วยนั่นคือ AKG ที่มีราคาประมาณ $100 หรือ 3,4xx บาท นอกจากนี้ผู้ชื่นชอบการใช้งานสองหน้าจอพร้อมกันหรือสองแอพฯ พร้อมกันก็เล่นได้เลย

Samsung Pay
Samsung Pay คือบริการการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านทางสมาร์ทโฟน โดยการเพิ่มบัตรเครดิตของเราลงไปบนสมาร์ทโฟน และเข้าใช้งานผ่าน Samsung pass ที่เน้นความปลอดภัยและความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน

Samsung Galaxy S8
Wireless Charging ชาร์จแบบไร้สาย
ยังคงฟีเจอร์ชาร์จแบตไร้สายไว้สำหรับ Galaxy S8 เหมือนเดิม ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ชื่นชอบเพราะไม่ต้องเสียบสายเชื่อมต่อให้ยุ่งยาก แค่วางมือถือลงบนแท่นชาร์จก็สามารถชาร์จได้เลย

ราคาเปิดตัวโดยประมาณ (เริ่มจำหน่าย 21 เม.ย. นี้)

• Samsung Galaxy S8 : ราคา $750 หรือประมาณ 25,8xx บาท
• Samsung Galaxy S8 Plus : ราคา $850 หรือประมาณ 29,2xx บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก :: mangozero.com , news.siamphone.com

0.00 avg. rating (0% score) - 0 votes

Comments

comments

ช้อปปิ้งออนไลน์ WeMall ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่แรกในประเทศไทย