คำว่า “คอมพิวเตอร์” สำหรับปี 2017 นี้ อาจจะไม่ได้มีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากนักหากเปรียบเทียบกับ 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะการก้าวเข้ามาของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทดแทนในรูปแบบอื่นๆ เช่น Smartphone, Tablet, Phablet รวมถึง Smart TV ทำให้บทบาทและหน้าที่ของคอมพิวเตอร์ลดน้อยลงไป เหลือความสำคัญจริงๆอยู่เพียงการใช้ปฎิบัติหน้าที่หรืองานประจำวันที่ยังคงต้องใช้งานคอมพิวเตอร์แต่เมื่อหมดช่วงเวลาของการทำงานหรือเมื่อปฎิบัติหน้าที่ตามเวลางานเสร็จแล้ว คอมพิวเตอร์ก็จะถูกปล่อยทิ้งไว้แล้วถูกแทนที่ด้วย Smartphone ในฝ่ามือที่ทำงานได้อย่างใกล้เคียงแถมยังสะดวกในการใช้งานและพกพามากกว่า ทำให้ผู้ใช้งานหลายๆท่าน(รวมถึงตัวผมเอง)แทบไม่ได้แตะต้องกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เคยเป็นเพื่อนซี้กันในอดีต แต่การเตรียมความพร้อมของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอเพื่อรองรับการใช้งานที่อาจต้องเรียกหาคอมพิวเตอร์อย่างเร่งด่วนก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพราะผมเชื่อว่าคอมพิวเตอร์ที่ดีก็ควรจะพร้อมตอบสนองความต้องการใช้งานของเราได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำ Tips ต่างๆที่คุณควรจัดการกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อให้คอมพิวเตอร์คุณพร้อมใช้งานอยู่ตลอดช่วงปี 2017 ดังนี้ครับ…
1 – Backup ข้อมูล บ่อยๆ
โอเคๆ บางคนอาจได้ยินคำนี้จนเบื่อกันแล้วก็ตามที แต่สิ่งที่สำคัญมาก มาก มากที่สุดในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณคงหนีไม่พ้น “ข้อมูล” ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายสมัยมัธยมจากกล้องมือถือ ไฟล์วิดีโองานแต่งงาน เซฟเกมที่อุส่าห์เล่นมาเป็นปีๆ หรือไฟล์บัญชีรายรับรายจ่ายทั้งปีที่คุณเก็บสุมรวมกันในฮาร์ดไดร์ฟลูกเดียวนั้น มันอาจจะหายวับไปเหลือเพียงความว่างเปล่าโดยตลอดเวลาโดยไม่บอกคุณล่วงหน้า ทั้งจากไวรัส ซอฟต์แวร์ทำงานผิดปกติ เกิดความเสียหายขึ้นกับตัวฮาร์ดไดร์ฟ หรือเหตุสุดวิสัยอย่างโน๊ตบุ๊กโดนขโมย … เพราะ “ข้อมูล” มิอาจซื้อกลับมาใหม่ได้เสมอไป สิ่งที่ต้องทำคือการสำรองข้อมูลที่สำคัญเหล่านั้นแยกไว้กับแหล่งจัดเก็บข้อมูลภายนอกอย่าง DVD/Blu-Ray, แฟลชไดร์ฟ อะไรก็ได้ที่ไม่ได้เก็บไว้อยู่ที่ๆ เดียว เชื่อเถอะ ผู้เขียนเคยไฟล์หายเพราะฮาร์ดไดร์ฟช็อตไป 2 ลูกแล้ว T_T
2 – ลง Antivirus แล้วอัปเดตบ้าง
สมัยนี้มีภัยมากกว่าแค่ไวรัส มีทั้งโทรจัน, มัลแวร์, สปายแวร์ และอะไรต่อมิอะไรสารพัดอย่าง การลง Antivirus บนคอมพิวเตอร์ PC ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าคุณใช้ OS ใหม่ๆ อย่าง Windows 10, 8.1 ยังพออุ่นใจเพราะ Microsoft มีซอฟต์แวร์ป้องกัน ที่ชื่อว่า Windows Defender ซึ่งเพียงพอต่อการป้องกัน PC จากภัยร้ายบนโลกอินเตอร์เน็ตหรือจากแฟลช์ไดร์ฟคุณเพื่อนหรือลูกพี่ลูกน้องของคุณ แต่การมี Antivirus เป็นกำแพงเมือง แต่ไม่ยอมอัปเดตตัวกำแพงให้แข็งแกร่งขึ้น สูงมากขึ้น ก็เป็นได้เพียงกำแพงเมืองเก่าๆที่ป้องกันภัยคุกคามแบบเดิมๆ เมื่อมีไวรัสตัวใหม่ๆผ่านมาก็สามารถเจาะทะลุกำแพง Antivirus ของคุณเข้ามาทำลายข้อมูลได้ในทันที ดังนั้นการอัปเดท Antivirus ให้ทันสมัยอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคอมพิวเตอร์คุณต้องใช้งานแลกเปลี่ยนไฟล์กับผู้อื่นอยู่เสมอ หรือคอมพิวเตอร์ของคุณได้รับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต คุณก็พร้อมที่จะเป็นเป้านิ่งให้ไวรัสเข้าโจมตีทันทีหากไม่อัปเดท Antivirus
3 – อัปเดต Software หรือ OS
… เข้าใจได้ว่าการรอ Windows Update นั่นช่างเนิ่นนานมากมายมหาศาล แต่ตราบใดที่คอมพิวเตอร์คุณไว้ใช้เข้า Facebook, ดู YouTube แล้วท่องเว็บนั่นนี่สารพัดสิ่ง คุณควรปล่อยให้มันได้อัปเดตเสียบ้าง เพราะสิ่งที่เรียกว่า Software/Application นั้นนอกจากจะต้องอัปเกรดฟีเจอร์ต่างๆเพิ่มเติมเข้ามาให้ทันยุคสมัยแล้ว มันยังไม่เคยสมบูรณ์แบบได้ในตัวมันเองภายในเวอร์ชั่นแรกที่เปิดตัวมาเพราะซอฟท์แวร์ทุกตัวล้วนมีจุดบกพร่องและช่องโหว่ให้ผู้ผลิตต้องคอยตามอุดอยู่ตลอด ซึ่งช่องโหว่บางอย่างอาจอยู่นอกเหนือพวก Antivirus หรือ Firewall ที่จะกรองไม่ให้สร้างความเสียหายได้ ฉะนั้น จึงจำเป็นมากที่ควรจะอัปเดต OS/Software/Application ที่มีให้ทันสมัยที่สุดเท่าที่จะทำได้
4 – ตั้ง Passwords ให้ซับซ้อนขึ้นอีกนิด
ชุดตัวเลข, ตัวอักษร อย่าง “12345678” หรือ “Passwords” ขึ้นชื่อว่าเป็นรหัสผ่านที่ผู้ใช้งานตั้งขึ้นมาเป็นตัวป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยผู้อื่นมากที่สุดในโลก จนต้องตั้งข้อสงสัยว่าความสำคัญของข้อมูลที่เก็บอยู่นั้นมีค่าเพียงแค่การกดตัวเลขเรียงกันหรือตัวอักษรที่คาดเดาง่ายๆเพียงเท่านี้หรือ ??? ซึ่งการตั้ง Passwords ที่ดีควรจะมีความซับซ้อนและยากต่อการคาดเดาของบุคคลทั่วไปโดยผสมรวมไว้ซึ่งตัวเลข, ตัวอักษรที่มีขนาดแตกต่างกัน ให้สมกับความพยายามในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ไม่ประสงค์ดีที่เราไม่อนุญาต แต่ถ้ากลัวว่าการตั้งรหัสผ่านที่ซับซ้อนอาจจะทำให้จดจำไม่ได้ก็ยังมีระบบเก็บรหัสผ่าน (Password Manager) หลากหลาย Applications มาช่วยจดจำแทนตัวคุณ เช่น LastPass ความเจ๋งของมันคือ สามารถเก็บรหัสได้อย่างปลอดภัย เข้าถึงได้ผ่านอินเตอร์เน็ต มี App ทั้งบนสมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์ จากที่ต้องจำในหลายสิบเว็บ คุณจำรหัสเข้า Password Manager เพียงอันเดียวก็เพียงพอครับ
5 – เลิกใช้ Windows XP
เรียกได้ว่าเป็น Windows ที่ดี(เกินไป) ของ Microsoft ก็ว่าได้ สำหรับ Windows ที่มีความสมดุลในการใช้งานมากจนได้รับความนิยมอยู่จวบจนทุกวันนี้ ไม่ว่าคุณจะยังใช้มันอยู่ด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่เราขอให้คุณหยุดการใช้งานแล้วเปลี่ยนไปใช้ Windows version ที่ใหม่กว่าซะ !!! เพราะ Windows XP ถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่ามากจนเกินไป จนผู้ผลิตอย่าง Microsoft ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะหยุดการ Support ต่างๆกับ Windows XP แล้ว ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงในการโจมตีช่องโหว่ที่อาจค้นพบภายหลัง สำหรับใครที่ยังอาลัยอาวรณ์กับ Windows XP อยู่ เราแนะนำว่าให้ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆที่ Microsoft นำเสนอดูบ้างเพราะบางทีคุณอาจจะหลงรักมันมากกว่า Windows XP อย่างที่ Microsoft พยายามจะให้เป็น หรืออย่างน้อยที่สุดการเปิดใจครั้งนี้ก็คุ้มค่ากว่ากับความปลอดภัยและการลงทุนในระยะยาว มากกว่าที่จะฝืนอยู่กับ XP ต่อไปอย่างแน่นอนครับ
6 – อัปเดต Windows 8 เป็น 8.1
เหตุผลหลักก็คงจะเป็นเรื่องการรองรับกับอุปกรณ์และความสะดวกที่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้งานมากกว่า แม้จะรู้สึกว่า Windows ทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างกันแค่ 0.1 เวอร์ชั่นก็ตาม แต่ขึ้นชื่อว่าอัปเดต คุณควรทำหน่า… และจะดียิ่งกว่าถ้าคุณก้าวไปสู่ Windows 10 ในทันที เพราะเค้าว่ากันว่า Windows 10 นั้นเป็น Windows 8 ที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
7 – อย่าดาวน์โหลดแอพจาก Ads. อะไรก็ไม่รู้
แทบทุกอย่างบนโลกใบนี้อยู่ได้ด้วยเม็ดเงิน เช่นกันกับเว็บไซท์อยู่ได้ด้วยค่าโฆษณา ซึ่งวงการโฆษณาออนไลน์จึงมีท่ายากที่คอยหลอกล่อผู้ไม่รู้ประสีประสาอะไรเข้ามากด Link ที่แสดงขึ้นมานั่นนี่อันไม่พึงประสงค์ หรือไม่ก็เจอโฆษณาหลอก ดูมีความน่าเชื่อถือ แต่ที่จริงเป็นหน้ากากหลอก รู้ตัวอีกทีคอมพิวเตอร์ก็รวนไปหมดแล้ว …. อย่าประมาทกับสิ่งนี้ ผู้เขียนเคยเจอมาแล้ว ทางที่ดี คุณควรใช้สติในการคลิกเข้าสิ่งใดๆ ก็ตาม อีกอย่าง ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวของกับ Antivirus มักจะไม่ลงโฆษณาให้หวือหวาหรือทักว่า “คอมของคุณมีไวรัสเท่านั้นเท่านี้ตัว” แต่จะให้ดีที่สุดหลีกเลี่ยงการกดติดตั้งแอพทุกชนิดที่เด้งต่อมาจากหน้าโฆษณาเลยจะดีกว่า
8 – ลบ Software ที่ไม่เคยใช้เลย
บ้างซื้อคอมแบรนด์เนม บ้างประกอบเองแล้วอาจไว้วานเพื่อนเซียนคอมลงซอฟต์แวร์ให้ แล้วมีสารพัด Apps ชุดเด็ดที่บริษัทผู้ผลิตหรือเพื่อนผู้เหยีบเมฆของเราหวังดี อยากให้เราใช้งานได้อย่างครบถ้วนเต็มไปหมดเลย แต่ถามว่าเราได้ใช้งานจริงๆซักกี่อัน ?… ซึ่งโดยเฉลี่ยตามการใช้งานปกติแล้วส่วนมากจะเรียกใช้งาน App จริงไม่เกินสิบยี่สิบอันจาก App ทั้งหมดที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องราวครึ่งร้อย … การ Uninstall เพื่อลบเอาสิ่งที่ไม่ได้ใช้งานเลย จะช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างบนฮาร์ดไดร์ฟให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการช่วยลดการทำงานของ RAM ลงได้ด้วย แต่ก่อนจะลบอะไรออกจากเครื่องก็ตรวจดูให้แน่ใจก่อนหละว่าไม่ใช่ไฟล์สำคัญในระบบ ไม่งั้นเครื่องทำงานผิดปกติก็ตัวใครตัวมันหละหนะคร๊าบบ….
9 – ล้างไฟล์ที่ไม่ได้ใช้/ไฟล์ขยะ ออกจาก HDD
โหลดนั่นไว้เผื่อ โหลดนี่ไว้เสียหน่อย โหลดไปโหลดมาไดร์ฟใกล้เต็มแต่ไม่ได้แตะต้องไฟล์นั้นเลย การที่มีไฟล์เยอะๆ ในฮาร์ดไดร์ฟอย่างไม่จำเป็น ส่งผลถึงการเข้าถึงข้อมูลที่ใช้เวลาในการเข้าถึงมากยิ่งขึ้น เพราะการเขียนไฟล์ของฮาร์ดไดร์ฟนั้นเขียนลงจานแม่เหล็กแบบสุ่ม ยิ่งสุมไฟล์เยอะ ตัวไดร์ฟก็เขียนไฟล์กระจัดกระจาย ทำให้รอโหลดนานขึ้นไปอีก ฉะนั้น ถ้าไม่จำเป็นต้องเก็บสิ่งใด ก็ตัดออกจากใจ .. เอ๊ะ ออกจากคอมไปเสียหน่อย
10 – ทำ Defragging
เชื่อว่าแทบทุกคนไม่เคยทำสิ่งนี้กับฮาร์ดไดร์ฟของตนเอง defragmentation คือการจัดระเบียบไฟล์ในฮาร์ดไดร์ฟ เพราะเนื่องจากไฟล์ในฮาร์ดไดร์ฟมักจะเขียนลงจานแม่เหล็กแบบกระจัดกระจาย ไม่ได้เกาะกลุ่มกัน เวลาเรียกใช้ไฟล์ในบางครั้งจึงรู้สึกช้า โดยเฉพาะเมื่อยิ่งมีไฟล์ก็เข้าถึงไฟล์ที่ต้องการก็ยิ่งใช้เวลามากยิ่งขึ้น ดังนั้นการจัดระเบียบไฟล์จะช่วยลดเวลาในการเข้าถึงไฟล์ลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนวิธีการทำนั้นสำหรับผู้ใช้ Windows จะมีโปรแกรมสำหรับทำขั้นตอนนี้อยู่แล้ว โดยกด Start > Run แล้วค้นหา defrag เพื่อเรียกโปรแกรม โดยบน Windows 7 ขึ้นไปจะสามารถตั้งการ defragment ให้เกิดขึ้นอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องเรียกใช้โปรแกรมเอง แต่ถ้าคุณยังใช้ Windows เวอร์ชั่นเก่า คุณต้องเรียกใช้งานดังกล่าวเอง ส่วนผู้ใช้ Mac นั้น ไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนนี้ เพราะ OS ของมันจัดการเองอัตโนมัติซะส่วนใหญ่ อ่อ การทำ Defrag นั้นสำหรับผู้ใช้งานฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือ HDD แบบดังเดิมเท่านั้น ถ้าใช้ SSD ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องทำแต่อย่างใด เพราะ SSD ใช้ระบบต่างจากฮาร์ดไดร์ฟโดยสิ้นเชิงครับ
ด้วย Tips ง่ายๆเพียง 10 อย่างที่ยกมาแนะนำนี้ก็เหมือนการปัดฝุ่นเพื่อนเก่าให้คอมพิวเตอร์ของคุณพร้อมสำหรับการใช้งานในปี 2017 บางสิ่งอาจจะเป็นเรื่องที่คุณทำอยู่เป็นประจำแล้ว บางสิ่งอาจจะเป็นสิ่งใหม่ที่คุณมองข้าม แต่เชื่อเราเถอะว่าทุก Tips ที่เราแนะนำมานี้จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ตัวเก่งของคุณพร้อมสำหรับการใช้งานทุกครั้งที่คุณต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์ของคุณ
เลือกซื้อสินค้าคอมพิวเตอร์ &แล็ปท็อป ได้ที่ >คอมพิวเตอร์ &แล็ปท็อป<