สำหรับใครที่ชอบเที่ยวทะเลและรักในการท่องโลกใต้น้ำเป็นชีวิตจิตใจ “กล้องใต้น้ำ” คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บภาพความประทับใจในทุกสถานการณ์ บันทึกทุกความท้าทายที่เกิดขึ้นตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนิ่งหรือวีดีโอ เพราะทุกการพจญภัยไปในโลกใต้น้ำคุณจะได้พบเจอกับความงดงามและความตื่นเต้นที่แตกต่างกันไปซึ่งคงไม่มีอะไรจะช่วยเก็บบันทึกความทรงจำของเราได้ดีเท่ากับกล้อง ดังนั้นใครที่กำลังมองหากล้องใต้น้ำเป็นไอเทมคู่ใจสักตัว แต่กล้องในตลาดก็มีอยู่มากมายหลากหลายรุ่นไม่รู้จะเลือกซื้อยังไง วันนี้เรามี 5 เทคนิคง่ายๆในการเลือกซื้อกล้องใต้น้ำให้โดนใจมาฝากกันค่ะ…
‘5 เทคนิค’ การเลือกซื้อกล้องใต้น้ำให้โดนใจ
1. ระดับความลึกที่กล้องสามารถใช้งานได้
ก่อนจะเลือกซื้อกล้องดิจิตอลสำหรับถ่ายภาพใต้น้ำสักตัวสิ่งสำคัญที่คุณควรให้ความสนใจเป็นอันดับแรกคือระดับความลึกของน้ำที่คุณต้องการนำกล้องไปใช้งาน เพราะโดยส่วนมากแล้วกล้องที่สามารถถ่ายใต้น้ำได้จะออกแบบมาให้สามารถกันน้ำได้ที่ระดับความลึกประมาณ 3-10 เมตรอยู่แล้ว หากต้องการจะใช้เพียงการถ่ายภาพเล่นน้ำริมทะเล หรือดำน้ำแบบ Snorkeling ก็สามารถเลือกซื้อกล้องได้แทบจะทุกรุ่น แต่หากคุณเป็นคนที่ดำน้ำลึกมากกว่า 10 เมตรแล้วก็จะมีผู้ผลิตบางยี่ห้อที่ทำกล้องสำหรับถ่ายภาพใต้น้ำลึกขึ้นมา ซึ่งตัวกล้องจะสามารถกันน้ำได้ลึกตั้งแต่ 15 – 40 เมตร ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตส่วนการดำน้ำที่ลึกมากกว่านี้อาจต้องใช้งานควบคู่กับไปอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมค่ะ เพราะฉะนั้นก่อนจะเลือกซื้อกล้องก็อย่าลืมดูข้อจำกัดเรื่องความลึกในการดำน้ำกันด้วยนะจ้ะสาวๆ
2. ความละเอียดของภาพถ่ายและวีดีโอ
กล้องแต่ละรุ่นก็มีความละเอียดของไฟล์ภาพและวีดีโอที่แตกต่างกันออกไป เช่น วีดีโอก็จะมีความละเอียดให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 1080p (Full HD) ,1440p (2k) และ 2160p (4k) ส่วนภาพถ่ายก็ 10 – 24 ล้านพิกเซล ให้เลือกใช้งาน ซึ่งหากจะให้พูดกันแบบง่ายๆโดยเปรียบเทียบเพียงความละเอียดแล้วหละก็ กล้องที่มีความละเอียดยิ่งมากก็จะได้ภาพและวีดีโอที่ขนาดไฟล์ใหญ่มากกว่า สามารถนำวิดีโอที่ได้ขึ้นจอขนาดใหญ่รับชมได้อย่างสวยงาม เรียกได้ว่าตัวเลขในเรื่องความละเอียดนั้นยิ่งมีมากยิ่งดีกว่ากล้องที่มีความละเอียดน้อยๆจ๊ะ
3. เลนส์มุมกว้างเก็บบรรยากาศได้ดีกว่า
โลกใต้น้ำคือมุมมองใหม่ที่ไม่ว่าใครก็คงรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับความสวยงามและแปลกตาที่ไม่สามารถพบเจอได้จากที่แห่งใด ดังนั้นการเก็บภาพความทรงจำที่ดีที่สุดเพื่อช่วยเตือนความจำและถ่ายทอดความงดงามของท้องทะเลนั้นคงต้องเป็นภาพที่มองเห็นรายละเอียดต่างๆใต้พื้นทะเลได้มากที่สุด ซึ่งเลนส์ที่สามารถตอบโจทย์การเก็บภาพได้กว้างมากๆจึงเป็นหน้าที่ของเลนส์มุมกว้าง (Wide Angle) และเลนส์มุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide Angle) ที่นอกเหนือจากการเก็บประสบการณ์ใต้น้ำได้อย่างครบถ้วนแล้วจะใช้ถ่าย Selfie ตัวเองหรือกับเพื่อนๆพร้อมกับบรรยากาศใต้ท้องทะเลก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย โดยองศาการรับภาพของเลนส์ที่ระบุบนตัวกล้องหรือหน้าเลนส์นั้นตัวเลขยิ่งน้อย ยิ่งบ่งบอกถึงมุมรับภาพที่ยิ่งกว้างมากขึ้น เช่น หน้าเลนส์ระบุไว้ว่า 17 มม. ก็จะให้องศารับภาพที่กว้างมากกว่าเลนส์ที่ระบุไว้ว่า 20 มม. (เมื่อเปรียบเทียบจากกล้องในระดับเดียวกัน) แต่ก็มีข้อควรระวังของการใช้เลนส์มุมกว้างคือความบิดเบือนและผิดเพี้ยนของสัดส่วนต่างๆบริเวณขอบภาพก็จะสูงตามไปด้วย ถ้าอยากถ่ายเซลฟี่ให้ตัวสมส่วนก็รวมตัวกันอยู่กลางๆภาพนะจ๊ะสาวๆ
4. ความสนุกต้องสะดุดเพราะแบตเตอรี่หมดไว
กล้องถ่ายแบบดิจิตอลนั้นทำงานผ่านแบตเตอรี่ในตัวหากแบตเตอรี่เกิดหมดลงในช่วงเวลาแห่งความสนุกที่ต้องการเก็บภาพทุกสถานการณ์คงจะเป็นอะไรที่เฟลน่าดู เพราะโอกาสที่จะกลับมาถ่ายภาพจังหวะสำคัญที่เกิดขึ้นใต้ท้องทะเลนั้นมีไม่บ่อยครั้งนัก ดังนั้นปัจจัยทางด้านแบตเตอรี่จึงเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้ามว่ากล้องรุ่นที่ตัวเองจะซื้อนั้นสามารถถ่ายภาพหรือวีดีโอได้ในปริมาณเท่าไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจจะไม่คงที่เพราะปัจจัยในการใช้งานและสภาพแวดล้อมก็มีส่วนทำให้เกิดการแปรผันได้ อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อกล้องที่ระบุจำนวณภาพหรือเวลาในการบันทึกวีดีโอที่มากกว่าย่อมเพิ่มโอกาสในการเก็บภาพได้มากกว่า โดยสามารถเปรียบเทียบได้จากชั่วโมงการใช้งานของของแบตเตอรี่ หรือจำนวนภาพถ่ายที่ระบุไว้ว่าคุณสามารถถ่ายได้ประมาณกี่ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เลือกใช้กล้องที่ตอบโจทย์เพื่อให้ความสนุกของคุณต่อเนื่องไม่ต้องสะดุดเพราะแบตเตอรี่กันนะ
5. อุปกรณ์เสริมเพิ่มขีดความสามารถ
อุปกรณ์เสริมของกล้องใต้น้ำก็มีอยู่มากมายให้เลือกใช้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย และทำให้การถ่ายภาพสนุกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์เสริมในการยึดตัวกล้องเข้ากับตัวผู้ถ่าย เพื่อช่วยให้สามารถบันทึกภาพได้ง่ายขึ้นในทุกกิจกรรมต่างๆ, เมมโมรี่การ์ด สำหรับเพิ่มความจุได้มากกว่าเดิม (ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกล้องด้วยว่ารองรับความจุได้สูงสุดเท่าไหร่), เคสปกป้องตัวกล้อง หรือ เคสกันน้ำที่สามารถทนต่อแรงดันน้ำในระดับที่ลึกกว่าที่ใช้งานได้ตามปกติ, ไฟแฟลชกันน้ำ อุปกรณ์ที่ช่วยให้แสง สำหรับผู้ที่ดำน้ำลึกอาจจะต้องซื้อแฟลชเพิ่ม ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการถ่ายภาพใต้น้ำ เพราะยิ่งลึกเท่าไหร่แสงสว่างก็จะหายไป ทำให้การถ่ายภาพได้ไม่สวย, แบตสำรองก้อนที่ 2 เพื่อการใช้งานได้ยาวนานขึ้น เป็นต้น ดังนั้นก็ควรเลือกชื้อตามความเหมาะสมในการใช้งาน อะไรที่ไม่จำเป็นก็ยังไม่ต้องควักเงินซื้อดีกว่า..
ขอบคุณภาพจาก getolympus
5 เทคนิคในการเลือกซื้อกล้องใต้น้ำให้โดนใจ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างตรงจุด ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยว่าต้องการสเปคแบบไหนและภาพเป็นอย่างไร โดยนำเทคนิคที่กล่าวมาข้างต้น ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อกล้องที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ต้องเสียเงินซื้อกล้องที่มีราคาแพงๆ ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย แต่เอาจริงๆไม่ได้ใช้งานเลย ลองหารุ่นที่ตรงตามความต้องการ บวกกับงบประมาณในมือ แล้วไปช้อปกัน 🙂