“ตู้เย็น” ที่วางขายในปัจจุบัน มีความแตกต่างทั้งทางด้านการใช้งาน คุณภาพและราคา หลายคนจึงตัดสินใจไม่ถูกว่าหากจะเลือกซื้อเลือกใช้ทั้งทีควรเลือกแบบไหน ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่าตู้เย็นที่ได้รับความนิยมในแต่ละบ้านนั้น มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบใด ดีกว่ากันมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้คุณเข้าใจการทำงานของตู้เย็นในแต่ละประเภทมากขึ้น โดยสามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่มดังนี้
ตู้เย็นแบบประตูเดียว
ถือเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมในการซื้อมาใช้งานมากที่สุด เพราะมีระบบการทำงานที่ไม่ซับซ้อนเหมาะสำหรับใช้ภายในครอบครัวที่เน้นแช่อาหาร เครื่องดื่ม ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่สูงมากผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อได้ตามงบประมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ตู้เย็นแบบประตูเดียวยังเป็นตู้ที่ประหยัดไฟมากกว่าตู้ประเภทอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่และมีหลายประตู แต่ก็จะมักจะมีข้อจำกัดในการจัดวางที่จะต้องแยกส่วนชัดเจนเพื่อให้ได้รับความเย็นอย่างทั่วถึง
ตู้แบบ 2 ประตู และ 3 ประตู
ตู้เย็นแบบ 2 ประตูและ 3 ประตู เป็นตู้ที่พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาจากตู้เย็นประตูเดียว โดยเป็นตู้ที่อำนวยความสะดวกสบายในการเปิด-ปิด จัดเก็บอาหาร แช่เย็น แช่แข็ง ที่จะมีประตูตู้แยกกันเป็นสัดส่วน ทำให้ในการใช้งานแต่ละครั้งสามารถเลือกเปิดประตูตู้เท่าที่จำเป็นได้ โดยไม่ต้องเปิดทั้งหมด ตู้เย็นประเภทนี้จะให้ความเย็นมากกว่าและเร็วกว่าตู้แบบประตูเดียวอีกทั้งยังมีพื้นที่ในการจัดเก็บเยอะกว่า แต่ก็มาพร้อมราคาที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน
ตู้แบบ Side By Side
จัดว่าเป็นตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยส่วนมากจะมีประตู 2 บานสำหรับเปิดออกด้านซ้ายและด้านขวา ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแถบตะวันตก เพราะเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในยุโรปและอเมริกา ก่อนที่จะได้รับความนิยมในบ้านเราโดยตู้เย็นประเภทนี้จะสามารถเก็บอาหารได้ทีละมากๆ ได้เหมาะสำหรับครอบครัวที่มักจะตุนอาหารไว้ในครั้งเดียวเพื่อนำไปประกอบอาหาร
แต่ละมื้อ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นในการทำงานที่แตกต่างจากตู้เย็นประเภทอื่นๆ ทั้งจอสัมผัสที่สามารถควบคุมการทำงานของเครื่องได้จากภายนอกโดยที่ไม่ต้องเปิดประตู ตลอดจนระบบกดน้ำดื่มและน้ำแข็ง ซึ่งมีการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนที่สามารถสังเกตและตรวจสอบความผิดปกติของตัวเครื่องได้ เรียกว่าเป็นตู้เย็นที่มีคุณภาพดีเยี่ยมที่สุดในท้องตลาด และมาพร้อมราคาที่สูงมากกว่าตู้ประเภทอื่นๆ
ตู้เย็นทั้ง 3 ประเภทนั้น เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ผู้ใช้งานควรพิจารณาเลือกซื้อตามความเหมาะสม จากงบประมาณที่มีในกระเป๋าการใช้งานตามความจำเป็น เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว หากเลือกซื้อตู้ผิดประเภทก็อาจจะทำให้คุณใช้งานไม่คุ้มค่าเกิดความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุได้นะคะ
>> ซื้อตู้เย็น <<