หากพูดถึงสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android ยี่ห้อที่ใคร ๆ ก็รู้จัก คงหนีไม่พ้นยี่ห้อ Samsung ซึ่งซีรี่ส์เรือธงคือตระกูล Galaxy S โดยทาง Samsung มีการเปิดตัว Galaxy S เป็นประจำทุกปี ในทุกครั้งของการเปิดตัว Galaxy S สามารถเรียกกระแสฮือฮาให้กับวงการสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก สื่อมวลชนต่างจับจ้องรอคอยเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาพร้อมกับ Galaxy S ในแต่ละปีอย่างไม่คลาดสายตา โดยในปี 2017 นี้ ทาง Samsung มีแผนการเปิดตัว Galaxy S มาถึงรุ่นที่ 8 แล้ว ทางเราจึงทำการรวบรวมข่าวลือเกี่ยวกับ Galaxy S8 สมาร์ทโฟนระดับเรือธงแห่งปี 2017 ว่าจะมีแนวโน้มออกมาแบบไหน ให้ผู้อ่านได้ทราบความเคลื่อนไหวกันครับ
จอโค้งตามสมัยนิยม ครอบคลุมเกือบเต็มพื้นที่
เอกลักษณ์ตั้งแต่สมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy S6 Edge เป็นต้นมาคือหน้าจอ Super Amoled ความละเอียดสูงระดับ Quad HD โดยพิเศษกว่ารุ่นอื่นที่จอขอบด้านข้างมีความโค้งมน สโลปลงอย่างชัดเจน โดดเด่นสะดุดตา กว่าใคร มีประโยชน์ในแง่ของการดีไซน์หน้าจอให้มีขนาดใหญ่ขึ้นในบอดี้ขนาดเท่าเดิมได้ เอกลักษณ์จอโค้งนี้จะมาพร้อมกับ Galaxy S8 เช่นเดียวกับ Galaxy S6 Edge และ Galaxy S7 Edge ที่ผ่านมา แต่พิเศษขึ้นเนื่องจากจอจะมีขนาดใหญ่ถึง 5.7 – 6.3 นิ้ว ครอบคลุมพื้นที่โดยคำนวณได้เป็น 95% ของพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่อง ขณะที่ยังสามารถคงขนาดบอดี้ให้มีความกะทัดรัดได้อย่างชาญฉลาด
ปุ่ม Home หายไปแล้ว!
ปุ่ม Home นั้นเป็นเอกลักษณ์ประจำซีรี่ส์ Galaxy เช่นกัน โดยเป็นปุ่มกดแบบ hardware ที่มีรูปทรงเป็นวงรีหรือสี่เหลี่ยมมุมมน ตั้งแต่รุ่น Galaxy S5 เป็นต้นมา ทาง Samsung ได้ใส่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อช่วยในการปลดล็อค ปุ่ม Home ยังสามารถสแกนลายนิ้วเพื่อสนับสนุนบริการ Samsung Pay สำหรับการใช้จ่ายต่าง ๆ หากว่าปุ่ม Home นี้ใช้พื้นที่ด้านล่างพอสมควร ด้วยความต้องการที่จะดีไซน์ Galaxy S8 ให้มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ยิ่งขึ้น พื้นที่ปุ่ม Home ด้านล่างจึงหายไป กลายเป็นพื้นที่ในส่วนของหน้าจอแทน อาจจะมีการใช้ปุ่ม Home จำลองในหน้าจอเช่นเดียวกับ Android รุ่นอื่น ๆ เช่นตระกูล Pixel แต่ Samsung จะยังคงความสามารถในการสแกนลายนิ้วมือได้อย่างไรหนอ
รุ่น Plus มาพร้อมกล้องคู่
สมาร์ทโฟนที่มีขนาดใหญ่นั้นอาจไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบสำหรับทุกคน ผู้ใช้บางกลุ่มยังคงชื่นชอบสมาร์ทโฟนที่มีขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก จึงเกิดไอเดียในการจำแนกออกเป็นรุ่นขนาดธรรมดากับรุ่นขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครัน การจำแนกโมเดลนี้เคยเกิดขึ้นในช่วงของ Galaxy S6 Edge โดยมีรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าคือ Galaxy S6 Edge Plus มาพร้อมกับสเปคที่เหนือกว่ารุ่นธรรมดา หากไอเดียการจำแนกโมเดลนี้ถูกนำมาใช้กับ Galaxy S8 อีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอย่างใด บวกกับกระแสกล้องคู่ที่กำลังมาแรง รุ่น Plus ที่มีสเปคเหนือกว่าจะมาพร้อมกับกล้องคู่ คล้ายกับการจำแนกโมเดลของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus นั่นเอง โดยกล้องคู่นี้อาจจะมีความสามารถในการถ่ายรูปแบบโบเก้ที่คล้ายกับ iPhone 7 Plus เช่นกัน
กล้องหน้าพร้อมระบบ Auto Focus
ผู้ที่ชื่นชอบการ selfie บางท่านอาจจะมีความต้องการให้การ selfie ได้ภาพออกมาคมชัด ดูมีมิติเช่นเดียวกับกล้องด้านหลังที่มีระบบ Auto Focus แต่ผู้ผลิตกลับมองว่ากล้องด้านหน้าไม่จำเป็นต้องมีความคมชัดเท่ากับกับด้านหลัง สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จึงแทบจะไม่มีรุ่นใดที่มีระบบ Auto Focus ในกล้องด้านหน้า แต่ Samsung อาจจะฉีกกฎนี้กับ Galaxy S8 ให้สมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงอย่างแท้จริง โดยการใส่ระบบ Auto Focus ลงในกล้องด้านหน้าเพื่อการ selfie อย่างมืออาชีพ ได้ภาพที่คมชัดใกล้เคียงกับกล้องด้านหลัง ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการ selfie ได้อย่างแท้จริง
กล้องหลังไม่นูนอีกต่อไป
กล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ มีจำนวนชิ้นเลนส์เพิ่มขึ้น พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหว (OIS) อย่างใน Galaxy S6 นั้น ต้องประสบกับปัญหากล้องนูนออกมาจากฝาหลังของตัวเครื่อง เนื่องจากโมดูลกล้องมีขนาดใหญ่เพราะใส่ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่บรรจุลงไปในโมดูลนั้น ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาการขึ้นในการมาของ Galaxy S7 หนึ่งปีหลังจากนั้น ทำให้กล้องด้านหลังมีขนาดเล็กลงโดยยังสามารถคงรักษาฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างครบครัน กล้องด้านหลังไม่ได้นูนออกมาเท่ากับ Galaxy S6 แต่ยังคงมีระดับพื้นผิวที่ยื่นจากฝาหลังออกมาเล็กน้อย ถือเป็นการพัฒนาขึ้นไปอีกก้าว
การมาของ Galaxy S8 ในปีนี้ Samsung จึงถูกคาดหวังว่าจะสามารถทำให้กล้องด้านหลังราบเรียบไปกับพื้นผิวฝาหลังได้ ซึ่ง Samsung ได้นำแนวคิดนี้มาใช้กับ Galaxy A5 และ Galaxy A7 2017 ที่ได้เริ่มทำการจำหน่ายไปแล้ว น่าเสียดายที่ทั้งสองรุ่นนี้ถูกตัดฟีเจอร์ระบบป้องกันการสั่นไหว (OIS) ไป หาก Galaxy S8 ยังสามารถคงฟีเจอร์ระบบป้องกันการสั่นไหว (OIS) พร้อมกับการลดขนาดโมดูลทำให้กล้องไม่นูนได้ จะเป็นความก้าวหน้าของนวัตกรรมการดีไซน์กล้องบนสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก
พอร์ตสำหรับแจ็ค 3.5 มม. ยังอยู่
นักฟังเพลงไม่ว่าจะมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่น ต่างคุ้นเคยกับแจ็ค 3.5 มม. เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่อระบบเสียงที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน แต่ความสำคัญของแจ็ค 3.5 มม. ก็ได้ถูกลดทอนลง เนื่องจากการมาของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระบบเสียงไร้สายด้วย Bluetooth ที่มีความสะดวกสบายมากกว่า โดยทาง Apple ถึงกับลองเสี่ยงครั้งใหญ่ด้วยการตัดพอร์ตที่รองรับแจ็ค 3.5 มม. ทิ้ง ใน iPhone 7 แล้วเน้นไปที่การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth เป็นหลัก จนผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android บางค่ายถึงกับเอาเยี่ยงอย่างบ้างโดยทำการตัดพอร์ตที่รองรับแจ็ค 3.5 มม. ทิ้งเช่นเดียวกัน ผู้ใช้หูฟังมีสายปกติจึงต้องชั่งใจว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดที่ยังคงรองรับแจ็ค 3.5 มม. อยู่
ข่าวดีคือ Samsung อาจยังคงเก็บพอร์ตสำหรับแจ็ค 3.5 มม. ไว้ เพื่อตอบสนองการใช้งานอันหลากหลายของผู้ใช้ โดยเคสสำหรับ Galaxy S8 ที่หลุดออกมายังคงมีการเว้นช่องเพื่อพอร์ตสำหรับแจ็ค 3.5 มม. ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในการใช้งานหูฟังมีสายปกติ ที่จะได้ฟังเพลงด้วยสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการอย่างแท้จริง
ปลดล็อคด้วยการสแกนม่านตา
การปลดล็อคโทรศัพท์มือถือมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานอย่างการใส่รหัส การลากเส้นผ่านจุด สแกนลายนิ้วมือ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาการปลดล็อคด้วยการสแกนม่านตา ซึ่งมีความปลอดภัยสูง รวดเร็วและแม่นยำ เป็นการรักษาการปลอดภัยระดับเดียวกับห้องแล็ปชั้นนำ ฟีเจอร์การสแกนม่านตาถึงจะดูเหมือนใหม่ แต่ได้ถูกนำมาเปิดตัวใน Galaxy Note 7 มาแล้ว แต่ด้วยเหตุความขัดข้องในการผลิต ทำให้การวางจำหน่าย Galaxy Note 7 เป็นอันต้องยุติลงไปอย่างน่าเสียดาย การมาของ Galaxy S8 ในปีนี้ Samsung อาจจะนำฟีเจอร์การสแกนม่านตากลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีให้กับรุ่นเรือธงอีกครั้ง
แบตเตอรี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
สาเหตุสำคัญที่ทำให้การวางจำหน่าย Galaxy Note 7 เป็นอันต้องยุติลง คือการลัดวงจรภายในแบตเตอรี่โดยส่งผลให้เกิดการระเบิด เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้สร้างชื่อเสียงด้านลบให้กับ Samsung มากที่สุดตั้งแต่เริ่มทำการผลิตสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy เลยทีเดียว ดังนั้น Samsung ต้องเร่งสร้างความมั่นใจคืนให้กับลูกค้าโดยได้วางแนวทางแก้ไขปัญหาทั้งด้านการออกแบบและผลิตแบตเตอรี่ใหม่ โดยแบตเตอรี่ทุกก้อนที่จะผลิตขึ้นต้องผ่านกระบวนการออกแบบและตรวจสอบแบตเตอรี่ “8-Point Battery Safety Check” พร้อมทั้งหลักการออกแบบแบตเตอรี่ใหม่ “Multi-layer Safety Measures” และตั้งทีม “Battery Advisory Group” กำกับกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ทุกก้อน
มาตรการตรวจสอบอันเข้มงวดใหม่ทำให้การผลิตแบตเตอรี่มีคุณภาพและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น Samsung คงไม่ยอมให้ข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นกับ Galaxy Note 7 ซ้ำรอยประวัติศาสตร์กับ Galaxy S8 อย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ล่ะครับที่เราได้คัดเลือกและรวบรวมกระแสข่าวเกี่ยวกับ Galaxy S8 ที่น่าจะเกิดขึ้นได้จริง ช่างน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยทาง Samsung จะมีการประกาศวันเปิดตัว Galaxy S8 อย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ Wemall เราจะเกาะติดสถานกาณ์อัพเดทข่าวสารให้แก่ท่านผู้อ่านในโอกาสถัดไป
ที่มา : GSMArena
